๑๑. วรรณกรรมเรื่องสิริจันโทยอดคำสอน112
วรรณกรรมคำสอนของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) ผู้เป็นนักปราชญ์ชาวอีสานอีกรูปหนึ่ง และเป็นนักเทศน์เอกในยุคนั้น วรรณกรรมเรื่องนี้ได้สะท้อนถึงความเชื้อต่างๆที่ท่านเจ้าคุณได้นำเอาปัญหา ๑๖ ข้อที่พระเจ้าปัสเสนทิโกศลนำมากราบทูลพระพุทธเจ้ามาแต่งเป็นคำสอนตามแบบของอีสานได้อย่างลึกซึ่งกินใจ กล่าวโดยสรุปได้ดังนี้คือ
๑๑.๑) สั่งสอนถึงความเจริญและเสื่อมของศีลเมื่อถึงสามพันปีดังนี้คือ
คำที่อาจารย์เจ้าโบราณเพิ่นชี้บอกมานั้น
คือว่าสังกาสล้ำเข้าเขตสามพันปี
จักเกิดมีโภยภัยพยาธิเดิมมาต้อง
แม่นว่าครองสมณ์สร้างในธรรมพุทธบาทก็ดี
ก็บ่ตั้งเที่ยงหมั่นในแห่งสิกขาบท
ศิษย์บ่ฟังคำครูซิเสื่อมทราบเพม้าง
แม่นว่าองค์กษัตริย์ไท้ทะรงเมืองตุ้มไพร่ก็ดี
ก็บ่ตั้งเที่ยงมั่นในฮีตคลองธรรม
คนบ่ยำเกรงย้านครูบาพ่อแม่
จักเกิดเป็นเหตุฮ้ายขี่ยุคโพยภัย
จักเกิดเป็นกังวลเข้านาตายแล้ง
จักเกิดเป็นอุบาทว์ฮ้อนปูปลาน้ำเขินขาด
ความสุขหาบ่ได้ความฮ้อนแล่นจ่นมา
จักเป็นเศิกกันบ่มั้วโจรมารทุกประเทศ
ฝูงไพร่น้อยความฮ้อนยิ่งกว่าไฟว่านา
อันนี้เป็นคำเถ้าอาจารย์ตั้งแต่เก่า
๑๑.๒) สอนถึงความเจริญในยุคนี้ว่า
ทางไกลเป็นทางใกล้ทางรถไฟรถยนต์แล่น
แม่นจักเดินทางน้ำเฮือยนต์จอดทุกท่า
เขาหากดาแต่งไว้คอยถ่าผู้ซิไปแท้แหล้ว
อันที่ในเมืองบ้านทางเดินดูสะอาด
มีแต่ไฟตามได้ชูแสงใสสว่าง
ตั้งหากดูสล้างไฟฟ้าเพิ่นต่อสายเจ้าเอย
คือว่ากลางคืนเป็นกลางวัน ตั้งฮุ่งเฮืองจนแจ้ง
๑๑.๓) สอนถึงจริยธรรมดังนี้คือ
ใผผู้จำศีลสร้างกินทานตักบาตรก็ดี
เพลจังหันบ่ขาดเว้นประสงค์ตั้งต่อบุญดั่งนั้น
คนก็โมทนาย้องเทวาก็ชมชื่น
บ่ห่อนตกต่ำต้อยเป็นข้อยคอบให้ทานเจ้าเอย
เถิงแม่นพากันสร้างทำบุญเป็นการใหญ่
ให้ฮีบพากันสร้างศีลทานอย่าได้ขาด
ตักบาตรแล้วหยาดน้ำหมายฝากธรณี
หากจักมีบุญค้ำนำทางให้ถืกช่อง
คึดสิ่งใดหากจักได้ชูเจ้าให้มั่งมีแท้แหล้ว
ใผผู้ทำบาปฮ้ายหาฮ้อนเข้าใสโต
คือว่าโลโภพ้นความผิดบ่ฮู้เมื่อมันนั้น
หากจักทนทุกข์ไหม้แสนเวทนหนัก
เถิงเป็นคนยังบ่ตายโทษซิเวียนมาต้อง
คนมีบุญเพิ่นโฮมเฮ้าเอาบุญทานสนุกใหญ่
คนบาปไปบ่ได้โฮมฮ้อนถืกแต่เวรแท้แล้ว113
๑๑.๔) สอนให้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งดังคำสอนนี้
เหตุว่าคุพระแก้วอันประเสริฐทั้งสาม
หากเป็นของมุงคุลช่วยให้คนฟูเฟื้อง
ใผผู้เกิดพบแก้วอันประเสริฐทั้งสาม
ก็หากเป็นแต่กุศลสร้างทำมาแต่ชาติก่อน
อย่าได้ประมาทแท้คุณแก้วยกใส่หัว เจ้าเอย
ให้มีใจอ่อนน้อมก้มกราบวันทา
ให้มีวาจาหมั่นสัจจังจริงเทียง
ให้มีใจอ่อนน้อมเป็นข้าชั่วชีวังหั้นถ้อน
๑๑.๕) สอนให้รู้คุณพ่อแม่ดังคำกลอนดังนี้คือ
พ่อแม่เลี้ยงแต่น้อยจนเจ้าแล่นหันนั้นนา
ยามเมื่อเจ้ายังน้อยสำออยเอิ้นหาแม่
หนาวมาให้แม่ตุ้มคลุมผ้าแล้วกอดนอน
ยามเมื่อตนโตฮ้อนก็วิงวอนให้แม่ช่วย
ยามเมื่ออยากกินข้าวหวานเปรี้ยวให้แม่หาฯ
ครั้นเมื่อลูกป่วยไข้คิ่งฮ้อนแลปวดหัว
ตนตัวฮ้อนเสียงครางเอิ้นพ่อแม่
สองแจ่มเจ้าใจเศร้าหน้าบ่บาน
ครั้นลูกหากเจ็บไข้โรคาที่บังเบียดมานั้น
พ่อแม่หายทุกข์ฮ้อนปานขึ้นสู่สวรรค์เจ้าเอย
อันบุญคุณพ่อแม่เลี้ยงแต่น้อยเพียรเจ้าให้ใหญ่สูงนั้นนา
ครั้นเจ้าใหญ่สูงเมื่อหน้ามีเฮือนชานสืบพ่อแม่
คุณเพิ่นเลี้ยงมาแต่น้อยคะนิงไว้อย่าให้ลืมฯลฯ114
๑๑.๖) สั่งสอนถึงสัจธรรมว่า
อันว่าสงสารบ่เที่ยงหมั่นเลยปิ่นแปรไป
เทียมดั่งกงจักรพัดดั่งเดียวเสมอเพี้ยง
สงสารบ่เที่ยงหมั่นเหมือนดั่งนีรพาน ภายพุ้น
เป็นคนเทียวสงสารบ่เทียงคงคือน้ำ
ลางเล่าบางบกแห้งเสียเลยมีมาก
ลางเล่าเขินขุ่นเขี้ยวลางแล้วเหล่าใส115
๑๑.๗) สั่งสอนถึงลูกที่ดีมีลักษณะ๔ อย่างคือ
พระสัตถาบอกทางลูกเลิศลูกประเสริฐมีสี่คน
พระเจ้าพลบอกไปภายหน้าชั้นหนึ่งกล้าเข้าบวชเข้าเฮียน
ใจพากเพียรศีลธรรมพระเจ้าบ่ให้เศร้าเสียฮีตครองสงฆ์
ใจมั่นคงบวชไปจนแก่ตั้งใจแผ่แบ่งส่วนกุศล
ให้เป็นผลค้ำชู้พ่อแม่ยามเฒ่าแก่แตกม้างจากขันธ์
กรรมมาทันได้ไปที่ฮ้ายบุญลูกย้านนำขึ้นวิมาน
เป็นสะพานขึ้นเมือเมืองฟ้าบ่ถ่อนช้าตกต่ำเป็นผี
ลูกชายดีบุญไผจึงพ้อ
ยังมีต่อลูกชั้นที่สองมันผิปองเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่
จนเฒ่าแก่การย่าวการเฮือนมันบ่ให้สองเฒ่ารำคาญ
ของให้ทานทำบุญตักบาตรบ่ให้ขาดหาไว้แก่เขือ
ให้ล้นเหลือพอกินพอใช้พ่อแม่ได้นั่งกินนั่งทาน
มันทำการครกเช้าหาบน้ำมันช่วยค้ำการสร้างการแปลง
การแลงงายขวนขวายบ่ขาดเป็นพยาธิ์เจ็บป่วยหายา
หาหมอมารักษาสองเฒ่าบ่ให้เว้าลำบากลำคราญ
ให้สมการพ่อแม่เลี้ยงยากอุปฐากจนเฒ่าจนตาย
ลูกชั้นที่สามคือลูกคนงามหาดีภายนอก
ดีบ่หยอกการไฮ่การนาการรักษาฮั้วสวนของปลูก
มีลูกแล้วหาบเอามาทั้งข้าวปลาหามาส่งให้
บ่ให้ไฮ้สักสิ่งสักอันลูกขยันเลี้ยงดูพ่อแม่
จนเฒ่าแก่เข้าวัดฟังธรรมมันจำนำการเจ็บการไข้
บ่ละให้สองเฒ่าอยู่พลอยมันหมั่นคอยไปมาถามข่าว
มันฮีบฟ่าวการสร้างการแปลงการแสวงหามาซักไซ้
จึงกล่าวไว้เป็นลูกมุงคลไผมีบุญสร้างมาจึงได้
ลูกชั้นที่สี่คือหาเงินเที่ยวค้าบ่ให้ช้ามีเข้ามีของ
มีเงินทองหามากองไว้พ่อแม่ได้นั่งกินนั่งทาน
ลูกทำการขุนหลวงเจ้าฟ้าบ่ให้ช้าเป็นท้าวเป็นขุน
เกิดมีบุญเงินคำบ่ไฮ้เอามาไว้ปลูกสร้างเฮือนซาน
เป็นสถานบำรุงพ่อแม่ยามเฒ่าแก่ยู่ถ่างทำบุญ
ลูกมุงคลมีหลายจำพวกเอามาบวกสมส่วนทางดี
ลูกมีศรีเชิดชูพ่อแม่ลูกดีแท้พ่อแม่มีสุข
ลูกดับทุกข์พ่อแม่ใจบานบุญสมภารไผมีจึงได้
พระกล่าวไว้เป็นข้อควรฟ้งควรเอวังจบลงเพียงนี้116