๗. กาพย์หลานสอนปู่
วรรณกรรมเรื่องหลานสอนปู่ที่มากล่าวแก้กันกับกาพย์ปู่สอนหลาน ให้ผู้เป็นผู้เฒ่าทั้งหลายให้รู้จักจารีตประเพณี
๑) หลานสอนปู่ให้รู้จักฮีตเฒ่า
ฮีตผู้เฒ่ามีแท้บ่หลาย อธิบายหลานจำจื่อได้
ให้ผู้เฒ่าชวนลูกหลาน ชวนกินทานทำบุญอย่าค้าน
ชวนลูกบ้านใส่บาตรสู่วัน ชวนลูกหลานฟังธรรมอย่าขาด
๒) หลานปู่ให้รู้จักวัตรของคนเฒ่า
ผู้เถ้ากล่าวคำหาญก็บ่นับ ปูมหลวงบอกยาป้างก็บ่นับ
แม่ฮ้างบอกยาเสน่ห์ก็บ่นับ คนโลเลสั่งสอนความฮู้ก็บ่นับ
คนลบหลู้ชี้บอกทางคุณก็บ่นับ คนเป็นขุนชี้บอกทางค้าก็บ่นับ
คนเป็นข้าชี้ช่องหาเงินก็บ่นับ คนมั่งมีกินทานบ่ได้ก็บ่นับ
คนขี้ไฮ้อวดอ้างมั่งมีก็บ่นับ คนเป็นชีหาเงินฮับจ้างก็บ่นับ
คนมักอ้างย้องแต่โตดีก็บ่นับ เป็นอาจารย์หากินแต่เหล้าก็บ่นับ
เป็นผู้เฒ่าความฮู้บ่ถามนี้ก็บ่นับ เป็นสมภารลูกวัดบ่ย้านนี้ก็บ่นับ
เป็นพ่อบ้านปากบ่เป็นธรรมนี้ก็บ่นับ ความฮู้มากการบาปบ่ยำก็บ่นับ
คนเฮียนธรรมอวดแต่ความเว้าก็บ่นับ คนผู้เฒ่าขาดเมตตาจิตก็บ่นับ
เป็นนักเลงพาเมียทุกข์ไฮ้ก็บ่นับ คนมักได้ขี้คร้านทำงานก็บ่นับ
คนเป็นกวนข่มเหงชาวบ้านก็บ่นับ คนขี้คร้านหาฮีตคลองธรรมก็บ่นับ
คนบ่ยำพระสงฆเจ้าก็บ่นับ คนโทโสอวดตนเก่งกล้าก็บ่นับ
คนขี้ตั๋วหาศีลบ่ได้ก็บ่นับ เถ้าแก่แล้วหลงโลภเมียสาวก็บ่นับ
เถ้าหัวขาวมักเฝือนหาชู้ก็บ่นับ เถ้าซู้หลู้นอนส้วมนำเมียก็บ่นับ
เฒ่าซำเซียนำสาวส่ำน้อยก็บ่นับ เถ้ามักป้อยเอิ้นห่าเอิ้นหูงก็บ่นับ
เถ้าหัวสูงศีลทานบ่สร้างก็บ่นับ เถ้าอัปรีย์ฆ่าสัตว์กินเหล้าก็บ่นับฯ
ฮีตผู้เถ้ามีแท้บ่หลาย อธิบายหลานจำจื่อได้
ให้ผู้เถ้าชวนลูกหลาน ชวนกินทานทำบุญอย่าคร้าน
ชวนลูกบ้านใส่บาตรซู่วัน ชวนลูกหลานฟังธรรมอย่าขาด103
๓) หลานสอนปู่ให้ตั้งอยู่ในศีลธรรม
ปู่ฮากฮู้ตั้งแต่สอนหลาน ทำปาณาฆ่าสัตว์เลี้ยงลูก
เป็นบาปฮ้ายฝูงนี้บ่ควร อทินนาลักเอาของท่าน
ให้ปู่ย้านภายหน้าส้วยแหลม กาเมแถมเมียเขาให้เว้น
ใผลอบเหล้นลงสู่อบาย โทษมุสาตั๋วพลางยัวะเย้า
ใผช่างเว้าเป็นบาปเป็นกรรม ใผช่างทำปากเหม็นปากกืก
โทษสุรามัวเมาคอบเหล้า เป็นผู้เถ้าควรเว้นซู่คน
จักให้ผลเกิดไปภายหน้า เป็นผีบ้าใจตื้นโง่เขลา104
๘. กาพย์ย่าสอนหลาน
การอบรมแนะนำสั่งลูกหลานในอดีตและปัจจุบัน คุณย่าได้รับเกียรติให้เป็นคนปลูกฝังจริยธรรมให้แก่หลานๆทั้งหลาย เพราะย่านั้นเป็นที่เคารพของลูกหลานและงานที่ถนัดของย่าคืองานอบรมสั่งสอนลูกหลาน ดังนั้น ลูกหลานสมัยโบราณจึงเป็นคนสุภาพ เรียบร้อยมีศีลธรรมเป็นคนขยันหมั่นเพียรสอนลูกหลานให้รู้จักสรรพสิ่งทั้งปวงในโลก ดังตัวอย่างต่อไปนี้คือ
๑) สอนให้ศึกษาเล่าเรียน
ให้ฮีบพากันเข้าโรงเรียน เขียนอ่าน หลานเอย
อย่าได้คึดขี้คร้าน ความฮู้ให้หมั่นหา
ให้ฮีบพากันศึกษาฮู้วิชาการกิจชอบ ฮีบประกอบไว้ไปหน้าสิฮุ่งเฮือง
ยามเมื่อเจ้าหนุ่มน้อยให้ฮีบฮ่ำเฮียนคุณ ยามเมื่อบุญเฮามีสิใหญ่สูงเพียงฟ้า
ไปภายหน้าสิหาเงินได้ง่าย ใผผู้ความฮู้ตื้นเงินล้านบ่แก่นถง
ใผผู้มีความฮู้เฮียนเห็นมาก บ่ห่อนทุกข์ยากเยิ้นภายท้ายเมื่อลุ่น105
สิได้เป็นขุนขึ้นครองเมืองตุ้มไพร สิได้เป็นใหญ่ชั้นแนวเชื้อชาตินาย แท้ดาย
๒) สอนให้รู้จักทำบุญรักษาศีล
บัดนี้ย่าสิพาพวกเจ้าตกแต่งกองบุญ มื้อนี้เป็นวันศีลเวียกเฮาเซาไว้
ย่าสิไปไหว้ยาครูสังฆราชเจ้า ไปตักบาตรแลหยาดน้ำฟังเจ้าเทศนา
ไปฮักษาศีลสร้างภาวนานำเพิ่น ให้พวกเจ้าพี่น้องจำไว้ย่าสิสอน
เพิ่นว่าวันศีลนั้นให้ทำบุญตักบาตร คันผู้ใดอยากขึ้นเมืองฟ้าให้หมั่นทาน
ให้หมั่นทำขัวข้วมยมนาให้ม้มฝั่ง หวังนิพพานไจ้ไจ้ปานนั้นจิ่งเผื่อพอ106
อันนี้เป็นบุญแท้ของเฮาให้ตั้งต่อหลายเอย คันว่าบุญบ่ให้เขาสิใช้แต่เฮา
บุญมีได้เป็นนายใช้เพิ่น คอยแต่บุญมาค้ำบ่ทำการมันบ่แม่น
คอยแต่บุญส่งให้มันสิได้ฮ่อมใด คือจั่งเฮามีข้าวบ่เอากินมันบ่อิ่ม
มีลาบคันบ่เอาข้าวคุ้ยทางท้องก็บ่เต็ม107
๓) สอนให้รู้จักพึ่งพาอาศัยกัน
อันว่าแนวคนนี้ฉันเดียวบ่มีต่างหลานเอย ข้อยเพิ่งเจ้า เจ้าเพิ่งข้อยเลิงเรื้อยสืบมา
บัวอาศัยเพิ่งน้ำปลาเพิ่งวังตม ไพร่กับนายเพิ่งกันโดยด้าม
เสือสางช้างกวางฟานอาศัยป่า ป่าอาศัยสัตว์สิ่งฮ้ายจึงหนาแหน้นมืดมุ่ง
เฮาอาศัยพวกพ้องน้องนุ่งสหายเกลอ เขาก็อาศัยเฮาจึงเป็นเมืองบ้าน
ซู่คนซู่ได้อาศัยกันทุกหมู่ บ่มีใผอยู่ยั้งทอนท้อผู้เดียว หลานเอย108
๔) สอนให้รู้จักการใช้วาจาให้เหมาะสม
คันสิปากกล่าวต้านให้ตามฮีตครองขุน ให้มันจริงมันจังจั่งนำมาเว้า
ให้มันเห็นกกเหง้าเห็นแกนฮากแก่น ให้มันแม่นจิ่งต้านประมาณแล้วจิ่งจา
คันแม่นเว้าถืกข้อเขาสิน่ำกอลอนำ เขาสิแถมสมภารผ่านครองเมืองบ้าน
เขาสิเอาหลานขึ้นคานหามแอะแอ่น คันแม่นเว้าแม่นแล้วสิดังขึ้นดั่งบั้งไฟ109