วรรณกรรมเรื่องธรรมดาสอนโลก
เป็นวรรณกรรมคำสอนมีลักษณะคล้ายกับการสั่งให้รอบคอบในเรื่องทุกด้านของชีวิตทั้งที่สาเหตุของความเสื่อมและความเจริญระหว่างคู่สมรสและเป็นข้อเตือนว่าให้ประพฤติตามแบบอย่างนี้ไม่ควรปฏิบัตินอกรีตจากจารีตประเพณีอันดีงามถ้าไม่ทำอย่างนี้จะเป็นอัปมงคลหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า “ขะลำ”แก่ผู้กระทำนั้นหรือเกิดความวิบัติ ในการเริ่มเรื่องนี้นั้นท่านได้กล่าวถึงพระจริยาวัตรอันดีงามของพระพุทธเจ้าผู้แวดล้อมด้วยพระอรหันต์ทั้งหลาย๒๘องค์ ในเรื่องธรรมดาสอนโลกนี้มี ๑๗ เรื่องใหญ่ๆแต่พอสรุปได้เป็น ๖ อย่างดังนี้คือ
๑) พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นถึงโทษของการประพฤติผิดจารีตคลองธรรม ที่เรียกว่าธรรมดาสอนโลก โดยยกตัวอย่างของเศรษฐีผู้ตกยากมากล่าวเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงความที่เศรษฐีผู้ประพฤติผิดศีลธรรม เหตุนั้นพระอรหันต์ ๒๘ องค์ก็สนทนากันในเรื่องนี้พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า
ดูราภิกขูเฮยจ่งฟัง เฮาเว้า
เศรษฐีนี้ผิดคลอธรรม สอนโลก จริงแล้ว
ท่านเผาผี บ่ชอบแท้ คองนั้น ก็จิ่งตาย นั้นดาย
มันก็ เอาผีย้าย เทิงขัว หามไต่ ไปนั้น
เผาจูดไหม้ ดีแล้ว จิงต่าวคืน
อันนี้ ขวางขนาดแท้เทศนาสอนสั่ง มานั้น
หากจัก ชำเขือกฮ้อน เมืองบ้าน บ่สบาย
ใผผู้ ใจหม่อตื้น ขืนล่วง คลองธรรม ดังนั้น
เงินคำ สังทาสา โคตรวงศ์ ก็หายเสี้ยง
บ่หลอแท้ ตัวตาย จมจุ่ม ไปแล้ว
พระเจ้า เทเทศน์ไขแจ้ง จื่อเอา แท้เนอ.
๒) คำสอนเรื่องการเลือกคู่สมรสได้บอกลักษณะหญิงดีหรือชั่ว ถ้าเลือกหญิงกาลกิณีจะเป็นผลร้ายแก่ตนเอง และสังคมญาติด้วยดังคำสอนดังนี้คือ
การเลือลูกสะใภ้
อันหนึ่งครั้นจักเอาหญิงให้เป็นนางใภ้ร่วมเฮือน
หญิงใดฮู้ฉลาดตั้งการสร้างก็จิ่งเอานั้นเนอ
อันหนึ่งรู้ฮีตเฒ่าสอนสั่งตามคอง
การเฮือนนางแต่งแปลงบ่มีคร้าน
หญิงนี้ควรเทาแท้เป็นนางใภ้ร่วมเฮือนแล้ว
การเลือกลูกเขย
ชายใดมีใจตั้งในบุญทุกเช้าค่ำ
กับทั้งใจฉลาดฮู้ความเฒ่าสั่งสอน
กับทั้งมีผญาแก้ปัญหาทุกสิ่ง
ความคึดดีสอดแส้วชู่อันแท้จิ่งให้เอา
๓) ข้อห้ามไม่พึงประพฤติซึ่งเป็นผลเพียงอัปมงคล(ขะลำ)เท่านั้นไม่ถึงกับเสียหายมาก ดังคำสอนดังนี้คือ
สอนพ่อบ้าน
อันหนึ่งเป็นพ่อเฮือนนั้นอย่าโกรธากริ้วโกรธ
อย่าได้ฟันเพม้างข้าวของเครื่องเฮือนนั่นดาย
ให้อิดูแท้ของเฮือนหมดทุกสิ่งจิ่งดีดาย
คันว่าใผหากฮ้ายกลายเสี้ยงซู่อันนั่นแล้ว
ฝูงหมู่ไทอยู่ใกล้เขาก็ย่อมยินซัง
บ่มีใผกูร์ณาท่อจ่มขวัญทั้งบ้าน
มันจักมีของล้นเหลือเยียหลายหมื่นก็ดี
ใผผู้ทำดังนั้นจีบหายเสี้ยงบ่ยัง แท้ดาย
สอนแม่บ้าน
อันหนึ่งเป็นเมียให้ยำผัวทั้งฮักยิ่ง จริงดาย
บัวระบัติผัวชอบแท้คือพระยาเศรษฐี นั่นแล้ว
อันหนึ่งนอนให้นอนลุนให้ลุกก่อน
ให้หุงหาน้ำทั้งผ้าเช็ดมือนั่นแล้ว
อันหนึ่งเมื่อถึงวันศีลให้สมมาผัวทุกเมื่อดีดาย
แล้วให้ปัดกวาดแผ้วเฮือนเหย้าให้ฮุ่งเฮือง
เมื่อผัวกินข้าวอย่าให้ของกินเงื่อนตัวดาย
อย่าได้กล่าวคำฮ้ายตอบเถียงกันเน้อ
อย่าให้ผัวบัวระบัตยังตัวกลัวจักบาปแล้ว
เอาแต่เพื่อนคิดเห็นฮู้ช่างอ่อนนั้นเทิน
อันหนึ่งเทียวเฮือนให้ลีลาค่อยย่างนางเอย
อย่าได้ปากลื่นพ้นเฮือนเหย้านั่นดาย
ยามจักนอนอย่าได้ลืมทุกเช้าค่ำคำเฮย
ให้เอาผมเช็ดพื้นตีนแล้วจึงค่อยนอน นั่นเน้อฯ
บัวระบัติ -ปรนนิบัติ ยำ -ยำเกรง ลุน หลัง,ภายหลัง สมมา -ขอขมา
เงื่อน -ของเหลือเดน ลื่น ดื้อรั้น นอกคอก เฮือน -เรือน ย่าง -เดิน
๔) สอนเรื่องการปลูกบ้านเรือนและวิธีเลือกไม้ที่เป็นมงคล-อัปมงคลและหาไม้ที่เป็นมงคลยิ่งมาทำเป็นเสาเอกและเสาขวัญ ดังนี้คือ
อันหนึ่งไม้เกิดตั้งจุมปวกเทิงจอมก็ดี ใผผู้เอามาแปงเฮือนก็บ่ดีจริงแท้
อันหนึ่งไม้จมดินผังอยู่ก็ดี ใผหากเอาสร้างเหย้าก็ขวงแท้เที่ยงจริงแล้ว
ไม้นอนขอนล้มบาท้าวอย่าได้เอาแท้ดาย ใผหากเอามาสร้างจิบหายขวงยิ่งจริงแล้ว
อันหนึ่งไม้อยู่น้ำก็ขวงแท้ดังเดียว มันจักเป็นลำงามก็อย่าเอามาสร้าง
ไม้ฟ้าผ่านั่นก็ขวงยิ่งแสนสนัดมากแล้ว อย่าได้เอามาเป็นเครื่องเฮือนกระทำสร้าง
อันหนึ่งไม้ตายยืนตั้งอยู่ก็ดี ก็หากขวงยิ่งล้ำคำไร้บ่เหือดคิงนั่นแล้ว
อันหนึ่งไม้ตายแล้วล้มอยู่เป็นขอน อย่าได้เอามาแปงสร้างกระทำเหย้า ฯลฯ
ความหมายคำศัพท์
จุมปอก -จอมปลวก เทิง -บน ขวง -เสนียดจัญไร,ความหายนะ แปง -สร้าง คำไร -ความยากไร คีง -ตัว ตน ร่างกาย ใผ -ใคร เหย้า -บ้าน,เรือน
ไม้ที่เป็นมงคลดังนี้คือ
ลำใดตั้งเหนือดินเพียงราม บ่สูงบ่ต่ำบ่คล้อยไปแท้ฝ่ายใด
ใบมันบ่คงเคืองต้นอื่น ลำปลอดเกลี้ยงเกลากลมง่าซุ่ม
หลิ่งดูแท้คือโสมงามกางร่ม ก็บ่มีง่าคานตายค้างอยู่แกม
ให้มีมดส้มพร้อมดำแดงมาอยู่ลำนั้น มีทั้งนกพร่ำพร้อมมาอยู่นอนคอน
ลำนี้เป็นมุงคนประเสริฐดีเสาแก้ว ลำนี้ให้เอามาเป็นเสาเอก
ดีขนาดแท้เรือนแก้วเศรษฐี นั่นแล้ว ฯลฯ
ความหมายคำศัพท์
ราบ -พอดี ขนาดพอดี โสม -โฉม หญิงงาม มุงคุน -มงคล -
ง่า -กิ่งก้าน แกม -ประปน
๕) สอนในเรื่องข้อห้ามการเผ่าศพ คือศพที่ตายผิดปรกติถือว่าผีจะแร้งกว่าผีเรือนบ้างเมื่อเผ่าและกลัวว่าญาติพี่น้องจะถึงแก่กรรมบ้างจึงให้นำศพนั้นไปฝัง เป็นการป้องกันโรคระบาดมากกว่า ดังคำสอนดังนี้คือ
อันหนึ่งตายลงท้องตายออกตุ่มและบวม บ่ควรเอาไปเผ่าส่งสการะจริงแท้
อันหนึ่งตายดึกน้ำตายหูงตกเฮือนก็ดี บ่ควรเอาไปเผ่าซิเดือนฮ้อนขวงแท้
อันหนึ่งเป็นฟกเทาเต็มคิงตายไข่ บ่ควรเผาเที่ยงแท้นาเจ้าบ่ดี
ตายช้างฆ่าม้าดีดเสือขบก็ดี ตายวัวชนหมู่งูขบเขี้ยวตายตกไม้ก็ดี
ฝูงนี้ธรรมไขไว้บ่ควรเผาแท้ต่างดาย ตายนำมอกหอกแลแหลนหลาวก็ดี
ตายด้วยเซิกคาซีกซวนเหล็กก็ดี ตายด้วยโรคามีเลือดแดงไหลย้อย
ในธรรมห้ามบ่ควรเผาสักสิ่งพระยาเอย มันจักแพ้พ่อบ้านพงศ์เชื้อพ่อแม่นั่นดาย
ครั้นอิดูให้เผาไปที่อื่น อย่าได้รวมป่าช้าซิขวงขนาดแท้ ฯลฯ
ความหมายคำศัพท์
ส่งสการะ -พิธีปลงศพ ดึกน้ำ -จมน้ำ หูง -ตายโหง ตายไข -โรคท้องโต,บวม
ขบ -กัด เซิก คาซีก -เครื่องจองจำ อิดู -เอ็นดู,เมตตา คีง -ร่างกาย
๖) สอนขุน เจ้าพระยาให้ยึดมั่นในครรลองแห่งธรรมะโดยยึดหลักพุทธปรัชญานั้นเองดังนี้คือ
ดูราร้อยเอ็ดตนพระยาใหญ่ฟังเน้อ เรานี้เป็นย่อนท้าวเทวดาคำซูซอย แท้ดาย
อันจักเป็นเหตุให้จิบหายจมจุ่ม แท้ดาย โลภคติสี่นี้เป็นเค้าแก่เฮา
ใผผู้โลภาพ้นผิเอาของท่าน โทโสทำโทษให้เสียแล้วจึงเอา
โมหาทำตัวร้ายผิเอาของท่านศรัทธา เห็นแก่ได้บ่มีฮู้บาปบุญ
เห็นแก่สินท่านจ้างเข้ามาสับส่อ มะนะทิฐิก็เข้าคำร้ายเกิดมี
ก็บ่ฟังคำผู้มีผญาต้านกล่าว มักลื่นได้ของแท้ก็บ่มี แท้แล้ว
เมตตากรุณาอย่าได้วางจักเมื่อ มุทิตาอุเบกขาจือไว้จำมั่นอย่าไล แท้ดาย
อันหนึ่งโกรธาร้ายอย่าได้ทำตามคำเคียด ให้พิจารณาถี่ถ้วนเสียแล้วจึงทำ
อันหนึ่งฟังหมู่ขุนเฒ่าพิจารณาคุณโทษก็ดี ให้เอาตามฮีตบ้านเมืองแท้แห่งโต นั่นเน้อ
ในโลกนี้มีฮีตห่อนเสมอกันแท้ดาย ฝูงใดเอาคองเพื่อนมาหลงเค้า
เป็นขุนให้จาความให้มั่นแน่ จริงเทิน อย่าเห็นแก่ใกล้ฝ่ายไส้โครตวงศ์แท้ดาย
โตหากเทียวทางไกลปักตูเรือนซิฮ้อน อย่าได้ปบแล่นปลิ้นคืนแท้อยู่หลังเพิ่นดาย
ครั้นว่าความให้ตัดไปด้วยซื่อ ทางงูอย่าให้เคียดทางเขียดอย่าให้ตาย
ก็จึงมิ่งมังคละเข้าขุนพิจารณ์โสภาพ จริงแล้ว 92ฯลฯ
ความหมายศัพท์
ย่อน เพราะ,เหตุว่า สับส่อ -ตลบตะแลง จุ่ม จม ปบ -รีบเร่ง ค้ำ ค้ำจุน
คนิง คำนึง คะนึง เค้า -ต้น ต้นเหตุ ต้าน -พูดจา เจรจา ไล -ลืม
ปักตู -ประตู โสภาพ สุภาพ ท่อน ไม่ จือ -จำ พู้น โน้น
โต ตัวเรา เคียด -โกรธ พี้ -นี้
92 ศ.ธวัช ปุณโณทก,วรรณกรรมภาคอีสาน,(กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง) ๒๕๓๗,หน้า ๒๓๔–๒๔๓