วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ดวงความรักของคนใน7วัน

12249ดวงความรักของคนใน7วัน

วันจันทร์
คนวันจันทร์ไม่แสดงออกถึงความเจ้าชู้
เด่นชัดอย่างคนวันอาทิตย์แต่จริงๆ แล้ว
เป็นคนเจ้าชู้เงียบแอบโปรยเสน่ห์อยู่บ่อยๆเหมือนกัน
ซึ่งก็มีคนหลงปลื้มอยู่เสมอไปด้วยความที่เป็นคนอ่อนโยนฉลาด รอบรู้
มีมนุษยสัมพันธ์ดีพอควร คนวันจันทร์ชอบทำตัวน่ารัก
แต่ถ้าเริ่มคบหาจริงจังกับหวานใจแล้ว จะแสดงความดื้อดึงออกมาทันที
เพราะเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองไม่น้อย
ดวงความรักของคุณจึงแสนซึ้งในช่วงต้นๆ เพราะพื้นดวงเป็นคนสุภาพ
น้อยคนนักที่จะห้าวมากๆนอกจากเกิดในวันจันทร์
และถ้าความรักจะมีปัญหาก็มักเป็นเพราะตัวคุณเอง
เนื่องจากเป็นคนช่างคิดอยู่แล้วจึงคิดมากคิดไกลเกินไปเสมอ
และเป็นเหตุร้าวฉานในความสัมพันธ์ได้ไม่ยาก
ดวงความรักของคุณค่อนข้างไม่ธรรมดา ความรักแท้มักเกิดขึ้นกับคนที่
รอบข้างแอบส่ายหน้าว่าไม่เหมาะสมกัน
ถ้าไม่แก่หรืออ่อนวัยกว่ามากๆก็อาจแตกต่างกันที่ฐานะ หรือการศึกษา
ด้อยกว่าในเรื่องใดเรื่องหนี่งแน่นอน
และมักจะได้แสดงถึงความรักแท้เหมือนในหนังคือการฝ่าฟัน
กับกระแสการกีดกันของครอบครัว เปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่จะเป็นในรูปนี้
ถ้าใครได้คู่ที่สมกันดีไม่มีใครห้ามปรามก็ต้องนับว่าโชคดี
คงมีดวงในราศีเกิดหรืออิทธิพลอื่นๆที่เสริมให้ดวงความรัก
ไปได้ดีกว่าพื้นดวงที่น่าจะเป็นเช่นนั้น
แต่สุดท้ายแล้วคนวันจันทร์จะแฮปปี้สมหวังเสมอ
ไม่ค่อยผิดหวังในเรื่องรัก
นอกจากจะมีทุกข์ในหัวใจที่ตัวเองคิดเองรู้สึกเอง
ไม่ใช่คนที่คุณรักก่อขึ้นหรอก หรือบางกรณีก็เป็นเพราะคุณแอบหวั่นไหว
ไปปลื้มคนอื่นแล้วผิดหวัง ถ้าดูแลหัวใจตัวเองให้ดีๆไม่วอกแวกไปไหน
คุณก็มักมีคู่รักที่คบกันเนิ่นนานจนเพื่อนๆ อิจฉาเสมอแน่นอน .....

วันอังคาร
ถ้าคุณเกิดวันอังคาร คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความรักของคุณหรอก
เพราะดวงในเรื่องความรักค่อนข้างดีหมายถึงดวงคู่แท้ๆ
ที่เป็นความรักแท้ๆ ในชีวิตด้วยเช่นกัน
พื้นฐานนิสัยของคุณแม้จะห้าวหาญวู่วาม และตรงไปตรงมาจนน่าถอยห่าง
แต่เสน่ห์ของคุณมีเสมอกับเพศตรงข้าม
ทำให้ไม่มีช่วงใดที่ไร้คู่นานวันนัก
นอกจากบางช่วงคุณจะยังไม่คิดในเรื่องนี้จริงจังเท่านั้น
คนวันอังคารเจ้าชู้แค่อารมณ์เท่านั้น
ไม่ได้เจ้าชู้เป็นนิสัยถ้าเจอะเจอคนหล่อหรือคนสวยในแบบที่พึงพอใจก็จะส่งสายตาไปก่อนอื่น
แต่ไม่ใช่คนที่จะต้องปราดเข้าไปขอทำความรู้จักทันใด
แม้จะเป็นคนกล้าแกร่งปานใดก็เถอะ
เว้นแต่ว่าถ้าได้รู้จักกันแล้วและหลงรักเข้าแล้วเท่านั้น
ที่คนวันอังคารจะติดตามผลงานอย่างตั้งใจ จนกว่าจะได้ใจของใครคนนั้น
ไม่มีวันที่คุณจะจีบเล่นๆ แบบนินจาเดี๋ยวมาเดี๋ยวหายแน่นอก
คนวันอังคารเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน
และมีดวงแบบตกหลุมรักเมื่อแรกสบตาได้มากกว่าคนเกิดวันอื่นใด
น้อยเหลือเกินที่จะเห็นคนวันอังคารมีความรักกับเพื่อน
ที่คบกันนานปีแล้วค่อยๆ พัฒนาเป็นความรัก
และในกรณีที่เป็นคู่รักกันแล้ว หากมีเรื่องปะทะอารมณ์ใส่กัน
คุณก็จะปิดปากเงียบไม่ยอมขอโทษว่าตนผิดเองทั้งๆ
ที่ในใจคุณอยากง้อใจจะขาด นอกจากว่าทะเลาะกับคู่รักบ่อยๆ
ครั้งจนรู้สึกชินแล้วนั่นแหละคุณถึงจะง้อเป็น
กล้าที่จะเอ่ยคำว่าเสียใจออกไปได้ในท่วงท่าที่ดูเป็นคนมุทะลุวู่วามไม่จริงใจกับใคร
แท้จริงแล้วคนวันอังคารเป็นคนรักที่คงมั่นมาก
ตามดวงชะตาบ่งบอกว่าเป็นคนรักจริงหวังแต่งมักได้คู่ดี
เว้นแต่บางช่วงจะไปรักคนผิดจนเดือดร้อนไม่น้อย
ดวงความรักของคุณหากจะมีปัญหาก็อยู่ที่อารมณ์เท่านั้น
ถ้าร้อนเจอร้อนก็จบเร็วแน่ถ้าคุณลดไฟในอารมณ์ตัวเองได้
หรือเลือกคนใจเย็นเป็นน้ำก็รักกันยั่งยืนยากจะแตกร้าวได้

วันพุธ
คนเกิดวันพุธมักมีดวงเกี่ยวกับความรักในแบบที่ลึกซึ้ง
ไม่รักเพียงหวือหวาให้ตื่นเต้นเร้าใจเท่านั้น
ด้วยธรรมชาติและพื้นดวงที่เป็นคนช่างคิดช่างตรอง
รอบคอบกับทุกเรื่องราวเสมอ ดังนั้นกับในเรื่องรัก
คุณจึงต้องมั่นใจก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้ามาแนบใจ
เสน่ห์ที่โดดเด่นของคนวันพุธอยู่ที่ศิลปะในการพูดจาทำให้ใครๆ
หลงเคลิ้มได้เสมอ และยังเป็นคนฉลาดมีไหวพริบดีอีกด้วย
นั่นเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนรอบข้างชื่นชมเป็นพิเศษ
แต่แม้ว่าจะมีใจชอบใครคนวันพุธจะไม่เปิดเผยทุกอย่างแก่คนรัก
เนื่องจากเป็นคนมีโลกส่วนตัว ชอบเก็บบางเรื่องราวไว้กับตัวเอง
เหมือนกับที่เป็นคนชอบอิสระและรักสนุกไม่น้อยเลยทีเดียว
คนเกิดวันพุธจริงๆแล้วมี 2 แบบคือแบบ ที่ควักเงินทุ่มให้คนรักแบบสุดๆ
กับอีกประเภทคือเหนียวสุดๆ กับคนรัก
คุณเป็นแบบไหนก็คงต้องตรวจสอบดูตัวเอง แต่ที่มีอยู่ในตัวคนวันพุธทั้ง
2 แบบ ก็คือมักจะปิ๊งคนที่อ่อนวัยกว่า
เพราะอยากที่จะดูแลคนรักของตนแบบแสนห่วงหวง
และคุณก็มักชอบมีรักแบบที่ค่อยๆ ใกล้ชิดติดใจกันไปทีละนิด
คุณแพ้คนที่เข้าใจคุณถ่องแท้
ดวงของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะพบรักที่ซาบซึ้งตรึงใจ
และมีความผูกพันกันมาก เพราะเป็นความรักที่มีพัฒนา
การเต็มไปด้วยความเข้าใจในกันและกัน พยายามที่จะรู้จักตัวตนแท้ๆ
ของกันและกันนั่นเอง คนวันพุธโชคดีที่ได้ปิ๊งกับคนคล้ายๆ กัน
รสนิยมไม่ต่างกันราวฟ้ากับดินนัก คุยกันรู้เรื่อง
ถ้าใครที่ดูดีอย่างเดียวแต่คุยกันไม่รู้เรื่อง ทัศนคติต่างกันมากๆ
คนวันพุธจะละความสนใจทันที หากเมื่อใดที่อกหัก
คนวันพุธก็จะไม่ฟูมฟายมากนักแม้จะปวดใจเพียงใด
คนที่เป็นคู่รักของคนวันพุธได้ดี
ต้องมีลักษณะของความเป็นเพื่อนเฮไปไหนๆ ด้วยกันได้
ถ้าทำสวีทเป็นเจ้าของเกินไป มักอยู่กับคนวันพุธได้สั้นกว่าที่หวัง

วันพฤหัสบดี
ถ้าคุณเกิดวันพฤหัสบดีมั่นใจได้เลยว่า
คุณจะเป็นคนรักที่ดีให้ใครคนนั้นได้ภาคภูมิใจแน่
เพราะคุณมีทั้งความเอื้ออารีมีน้ำใจเป็นคนสติปัญญาดี มีความยุติธรรม
เป็นคนที่ใครก็ยอมรับและชื่นชม คุณเป็นคนรักจริงเกลียดจริง
ถ้าเกลียดใครก็ไม่เสแสร้งคบหาต่อไปให้ต้องฝืนตามวิสัยของคุณคนวันพฤหัสบดีที่ตรงพอสมควร
ดวงในเรื่องความรักของคนวันพฤหัสบดีไม่ค่อยโลดโผนพิสดารมากนัก
ความรักค่อยเป็นค่อยไปอย่างเรียบง่าย
หากจะมีเรื่องปวดหัวใจบ้างก็เป็นเพราะความมองโลกในแง่ดีเกินไป
บางครั้งจึงหลงคารมคนไม่จริงใจ
หรือบางครั้งก็คิดไปเองว่าใครคนนั้นมีใจด้วยทั้งๆ
ที่ไม่ได้เป็นดั่งที่แอบคิดแอบหวั่นไหว
คนเกิดวันพฤหัสบดีเป็นคนใฝ่รู้ถ้าช่วงใดเจ็บหัวใจ
ก็จะทำใจด้วยการทุ่มเทในเรื่องที่มีสาระมีประโยชน์กับชีวิต
ความน่ารักของคนอยู่ที่ความสดใสเปิดเผยมีความมุ่งมั่นเสมอ
ไม่ใช่คนที่เลื่อนลอยไร้สาระ
ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคนวันพฤหัสบดีอีกลักษณะหนึ่ง
คือไม่ค่อยเรียบร้อยและขาดความสุขุมรอบคอบ
คนวันพฤหัสบดีไม่ค่อยเจ้าชู้แม้จะดูมีท่าทีเข้ากับคนง่าย
สดใสเป็นกันเอง แต่ไม่ได้ชอบใครง่ายๆ เสมอไป
ถ้ารักใครก็จะรักอย่างซื่อสัตย์ หากจะผิดหวังก็ดังที่กล่าวมาแล้ว
คือการไปรักคนผิดคิดว่าดีที่แท้ไม่ใช่ ดวงความรักของคนวันพฤหัสบดีนั้น
จะมีรักจริงจังก็ต่อเมื่อพบเจอคนที่เรียบง่ายคล้ายๆ กัน
ไม่ใช่ฟู่ฟ่าหรูหราเกินไปนัก
คิดแต่เรื่องสร้างสรรค์มากกว่าเรื่องเฮฮาปาร์ตี้
ปัญหาในรักมักไม่ใช่อยู่ที่ตัวคุณเองเพราะคุณอดทนได้เสมอ
แต่คนที่คุณรักต่างหาก ที่จะนำเรื่องปวดหัวมาให้

วันศุกร์
คนที่เกิดวันศุกร์เป็นคนที่ต้องพัวพันกับเรื่องรักๆใคร่ๆ เสมอ
เพราะดาวศุกร์เป็นสัญลักษณ์ของดวงดาวประจำเทพีแห่งความรัก
คุณผู้หญิงวันศุกร์จึงเป็นคนรักสวยรักงามเป็นพิเศษ
คุณผู้ชายก็สำอางไม่เบา ถ้าผู้ชายคนใดที่บำรุงผิวหน้าด้วยโลชั่น
หรือพรมน้ำหอมเสมอก่อนออกจากบ้านจนใครๆ เกือบจะคิดว่าเป็นเกย์ละก็
ที่แท้เขาคนนั้นเป็นคนวันศุกร์นั่นเอง เมื่อรักใครชอบใคร
คนวันศุกร์จะเทคแคร์เอาใจได้ละเมียดละไมที่สุด ยิ่งกว่าคนเกิดวันอื่นๆ
แต่ด้วยความที่รักตัวเองมาก หลงตัวเองพอสมควร
ดังนั้นคุณจึงต้องการให้คนพิเศษของคุณทุ่มเทรักให้คุณสุดหัวใจ
ถ้ารู้สึกว่ายังได้ความรักจากเขาหรือเธอไม่มากพอ คุณจะร้ายใส่ทันที
แม้เสน่ห์ของคนวันศุกร์จะอยู่ที่ความอ่อนหวานก็เถอะ
ยามหึงหวงหรือโกรธเคืองแล้วจะปากร้ายมาก แต่ในจิตใจไม่พิษร้ายใดๆ
เป็นคนใจกว้างและเป็นคนซื่อตรง ซื่อสัตย์มากด้วยซ้ำ
เพียงแต่คิดมากขี้ระแวงเท่านั้นเอง
ดวงความรักของวันศุกร์ค่อนข้างอาภัพทั้งๆ ที่มีคนมารักจริงแบบหวังแต่ง
แต่ก็มักจบลงเพราะความไม่มีเหตุผลอย่างสุดๆของคุณเอง
เรื่องที่จะผิดหวังเพราะไปรักเขาข้างเดียวนั้นก็มีบ้าง
แต่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักหรอกถ้าจะผิดหวังจนเสียหน้า
ก็เป็นเพราะไปหลงเชื่อ
คนที่มาหวังผลประโยชน์จากคุณโดยไม่ได้รักคุณจริง
เนื่องจากคนวันศุกร์ฉลาดในเรื่องอื่นแต่ไม่ทันคนนักหรอก

ที่ว่าดวงความรักของคนวันศุกร์อาภัพก็เพราะว่า
แม้บางจังหวะชีวิตจะมีรักแสนซึ้งเพียงใด ก็กลับต้องเลิกร้างกัน ทั้งๆ
ที่ยังรัก บางคนก็อาภัพแบบมีแต่รักเทียมๆ สั้นๆ
ไม่ดื้อไม่ดื่มด่ำลึกซึ้งนานวันให้อิ่มใจนัก
คนเกิดวันศุกร์บางคนก็มีความสัมพันธ์รักที่ยั่งยืนอบอุ่น
แต่มักไม่ใช่เป็นคนที่คุณหลงรักอย่างปักจิตปักใจมาก่อน
นับเป็นดวงแห่งความรักที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

วันเสาร์
คนเกิดวันเสาร์มีดวงชะตาในเรื่องรักที่ค่อนข้างดีพอสมควร
ไม่ค่อยจะมีปัญหาปวดหัวปวดใจจนเดือดร้อนเพราะเรื่องความรักอย่างคนเกิดวันอื่นๆ
เนื่องจากพื้นฐานนิสัยที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวหนักแน่น
คุณจึงคบใครก็คบอยู่คนเดียว พอเลิกกันเมื่อใดจึงค่อยมีรักใหม่
แต่คนวันเสาร์จะไม่ออกไปวิ่งไขว่คว้าหารักมาใส่ตัวหรอก
นอกจากรอให้กามเทพแผลงสอนเองตามธรรมชาติดีกว่า
แม้จะดูสุขุมมีระบบระเบียบเป็นคนตรงหัวแข็งไม่เบา
แต่ในใจคนวันเสาร์ก็อ่อนไหวไม่อยากกับเรื่องรัก เห็นใครถูกใจก็ชอบ
แต่ก็รู้จักยับยั้งใจไม่วิ่งเข้าประกบทันทีเด็ดขาด
ถ้าจะมีความเจ้าชู้ก็เจ้าชู้เงียบ
แต่ไม่ใช่เงียบแบบแอบเอาจริงอย่างคนวันจันทร์ เพราะคนวันเสาร์จะแค่มอง
รู้สึกชอบส่งยิ้มไปบ้างแต่ก็ไม่คิดอะไรมากกว่านั้น
ดวงความรักของคุณเป็นลักษณะที่มีความสัมพันธ์มีความผูกพันธ์
เต็มไปด้วยความลึกซึ้งไม่ใช่รักแบบตื่นเต้นเร้าใจสั้นๆ
แล้วจบลงเหมือนเพียงจุดพลุดอกไม้ไฟ
คนวันเสาร์ทำให้คนอื่นประทับใจได้เสมอกับความสุขุม ทรนง อดทน มุ่งมั่น
ใส่ใจคนรักอย่างเสมอต้นเสมอปลายแต่ถ้าใครคนนั้นฟู่ฟ่าหรูหรา
ใช้เงินกระหน่ำเกินไปคุณก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน ความที่เป็นคนช่างเลือก
คนวันเสาร์จึงไม่ใช่คนประเภทที่มีใครๆ เคียงข้างอยู่ตลอดเวลา
บางปีถ้าไม่ปิ๊งใครมากๆ ก็ยอมเปลี่ยวใจตลอดปีไม่ซีเรียส
ถ้าคนวันเสาร์ถูกใจใครจะใช้เวลาดูใจดูนิสัยก่อนจะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปให้ลึกซึ้ง
ด้วยความขี้ระแวงไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ต้องดูแล้วดูอีกกว่าจะตัดสินใจ
เรื่องความเหมาะสมกันคุณก็คิดมากกว่าคนวันเกิดใด
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุหรือฐานะ เช่น
ถ้าอีกฝ่ายรวยกว่ามากหรือจนกว่ามากๆ คุณก็จะคิดมาก
แม้จะรักแล้วแต่ก็ลังเล หรือถ้าอายุน้อยกว่ามากๆ หรือแก่กว่ามากๆ
ก็กลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงช่องว่างระหว่างวัย
จะมีหรือไม่นี่หละคือสไตล์ความคิดของคนวันเสาร์
ปัญหารักในเรื่องอื่นๆไม่ค่อยมีหรอกนอกจากจะสับสนกับตัวเอง

วันอาทิตย์
คนเกิดวันนี้มีหัวใจกล้าได้กล้าเสีย
ในเรื่องความรักนั้นถือคติว่าเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันตามประสาคนชอบสนุก
เจ้าสำราญพอสมควร
คนวันอาทิตย์เจ้าชู้จึงมีดวงในเรื่องความรักที่โดดเด่น
คือได้พบรักเสมอๆ มักปิ๊งคนเด่นๆ ที่ดูดีกว่าใครในกลุ่ม
คนที่มีท่าเรียบง่ายจนเกินไปค่อนข้างเชยๆ
ไม่ใช่คนแบบที่คุณจะสะดุดตาสะดุดใจแน่นอน
ใครก็ตามที่ห้าวเกินเหตุคนวันอาทิตย์ก็ยากจะตัดใจ คิดชอบพอ ความสดใส
มั่นใจในตัวเอง คือเสน่ห์ที่ทำให้ใครๆ หลงรักคนเกิดวันอาทิตย์
และนิสัยที่แข็งเกินไปของคุณ
ก็คือตัวการสำคัญที่จะทำลายความรักให้พังทลายไปอย่างน่าเสียดาย
ยามหลงรักใครคุณจะตามติด หวังพิชิตให้ได้
เมื่อสมใจแล้วคุณกลับไม่ยอมให้คู่รักมาเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวตนที่แท้ของคุณ
ถ้าใครยอมคุณได้ก็รักกันได้นานแน่นอน
โดยทั่วไปดวงในเรื่องความรักของคนวันอาทิตย์ ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรนัก
จีบใครหรือทอดสะพานให้ใครก็มักสำเร็จเสมอ
อยู่ที่ว่าตัวคุณเองนั่นแหละจะเป็นฝ่ายจืดจางห่างเหินอีกฝ่ายเสียก่อน
ตามประสาคนเจ้าชู้ที่หัวใจอ่อนไหวและอยากคบคนใหม่ๆ
เพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องท้าทายดี
ชอบหาความมั่นใจให้ตัวเองด้วยเรื่องรักๆใคร่ๆ บางครั้งทั้ง 4
ห้องหัวใจเต็มหมด ห้องไหนทนไม่ไหว โบกมือลาไปคุณก็ไม่เสียใจ
มีใครคนใหม่มาแทนได้เร็วเสมอ
ดวงความรักค่อนข้างดีตัวเองไม่มีปัญหาแม้จะชอบตามใจตัวเอง
แต่ก็ไม่ค่อยเอะอะเอาเรื่องกับความรักจริงจังนัก
ปัญหามักเกิดขึ้นเพราะคนรักของคุณ ซึ่งคิดจะเอาเรื่องกับคุณให้ได้

หรืออาจเป็นเพราะความใจร้อนของคุณบ้างโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดการแตกหักหรอก
ดังนั้นถ้าใครเข้าใจคุณก็สามารถควงกับคุณได้นานเป็นพิเศษ




กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons