วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วันเกิดของคุณกับคนรักรักกันดีหรือไม่(วันคู่มิตรกัน)


วันอาทิตย์รักกับวันอาทิตย์
คู่นี้หัวแข็งชอบบงการทั้งคู่ คบหารักใคร่กันอย่างเข้าอกเข้าใจแต่คู่นี้กลับรักกันไม่ค่อยหวานซึ้งเท่าไหร่นัก


วันอาทิตย์
รักกับวันจันทร์
คู่ของความแตกต่างเพราะมีทั้งดาวดวงร้อนและดาวดวงความอ่อนโยน แต่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว เพราะเมื่อผสมกันแล้วอีกคนแข็งขัน อีกคนนุ่มนวล จึงไม่มีการปะทะกันอย่างรุนแรง รักกันอย่างลึกซึ้งผูกพันกันเป็นพิเศษเติมเต็มให้แก่กัน


วันอาทิตย์
รักกับวันอังคาร
คู่รักคู่นี้มีความเหมือนกันหลายอย่าง เข้มแข็งอดทนด้วยกันทั้งคู่ เมื่อได้ครองรักกัน ทำทุกอย่างด้วยกัน และเกิดพลังร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแข็งขัน แต่ข้อเสียไม่ค่อยแสดงความหวานแหววแก่กัน รู้อยู่กันอยู่ก็แค่ภายในใจ คงไม่มีโอกาสได้เอ่ยคำว่ารัก เพราะทั้งคู่เป็นคนนิ่งๆเฉยๆเก็บเอาไว้ใจใจ เป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อมีลูก ลูกจะเป็นที่เชิดหน้าช ูตา และเป็นที่รักของพ่อแม่พร้อมกับผู้รอบข้าง


วันอาทิตย์
รักกับวันพุธ
คู่นี้รักกันเหมือนเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนกอดคอลุยกันไปทุกที่ รักกันอย่างเข้าใจ เฮไหน เฮกัน มีความสุขสนุกกันได้ทุกที่ มีความเข้าอกเข้าใจกันได้มากมายขนาดนี้ ก็คงมีแต่
แฮปปี้ตลอดเวลา


วันอาทิตย์
รักกับวันพฤหัสบดี
คู่รักนี้มักส่งเสริมกันได้อย่างดี เป็นแรงเชียร์แรงใจให้กันตลอดเวลาและคอยเป็นที่ปรึกษาในยามที่ท้อแท้ คอยช่วยคิดแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด คู่รักคู่นี้ใครๆก็ต้องชื่นชม


วันอาทิตย์
รักกับวันศุกร์
คนรักกันที่มีความแตกต่างกันเป็นคู่ตรงข้าม อีกคนเป็นคนห้าวหาญ อีกคนเป็นคนหวานหยดงดงาม กลายเป็นความรักที่กลมกลืน หวานซึ้งตรึงใจ ใช้ความรักคอยชักนำชี้ทางสว่างให้สดใส การเงินการงานด้านธุรกิจก็เป็นไปได้สวย เพราะทั้งคู่คอยเกื้อหนุนเป็นแรงส่งเสริมกันและกัน


วันอาทิตย์
รักกับวันเสาร์
คนที่เข้มแข็งมาอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดแรงที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช้อารมณ์ทั้งคู่ มีปัญหาก็แก้ไขกันด้วยปัญญา และหัวใจ
แต่ที่ขาดหายไปก็คือความหวานซึ้ง โรแมนติกที่อยู่ค่อนข้างลึกในหัวใจ


คนเกิดวันจันทร์
วันจันทร์รักกับวันอาทิตย์
ความอ่อนโยนมาพบกับความเข้มแข็ง กลายเป็นคู่รักที่กลมกลืนอยู่บนพื้นฐานความเข้าอกเข้าใจ จากหัวใจที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วแต่คนทั้งคู่จะได้พบกับความสุขที่แสนจะโรแมนติก


วันจันทร์
รักกับวันจันทร์
คู่รักที่มีความเหมือน อ่อนโยนด้วยกันทั้งคู่ ผู้คนต่างชื่นชมยินดีในความกลมกลืนของทั้งคู่ แต่คู่ที่ดูกันเหมือนกันมากจนเกินไป ก็อาจกลายเป็นความรักที่พร้อมจะจบได้ทุกเวลา มีเพียงภาพลวงตาที่ดูสวยงามเท่านั้น 



วันจันทร์
รักกับวันอังคาร
คนสองคนเป็นคู่รักมีความต่างกันทั้งภายนอกและภายในแต่จะกลายเป็นคู่รักที่ชื่นมื่นรื่นรมย์ได้ดีอีกคู่หนึ่ง อีกคนเป็นความอบอุ่น เป็นที่พึ่งทั้งกายและใจ แต่อีกคนก็คอยดูแลเอาใจใส่ แต่ถ้าอยู่กันนานๆก็อาจมีเรื่องราวขัดแย้งกันแบบเล็กๆน้อยๆ จึงควรใช้เหตุผลเข้าหากันไว้ให้มาก


วันจันทร์
รักกับวันพุธ คู่รักเป็นเพื่อนแท้ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงกันทั้งความรู้สึกและบุคลิกภาพ เป็นเพื่อนคู่คิด และคู่รักคู่ใคร่ มีความรักที่อ่อนหวาน งดงาม เต็มไปด้วยสติปัญญา เกิดความพอดีที่พอเหมาะพอควร ครองรักกันอย่างสุขสบาย ฐานะร่ำรวย


วันจันทร์
รักกับวันพฤหัสบดี คู่รักที่มีความสวยงามและมากด้วยความสามารถ อยู่ครองคู่กันจะช่วยส่งเสริมให้พบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ครองคู่กันอย่างมีสติ ไม่วู่วาม จึงทำให้ชีวิตพบกับความสุข
ความเจริญ แต่บางทีก็มีความขัดแย้งกันทางความคิดที่โต้แย้งกัน ต้องการเอาชนะกัน ลองหันมาคุยกันด้วยเหตุผลบ้างก็จะดีน่ะ


วันจันทร์
รักกับวันศุกร์ เป็นคู่รักที่ดูเกื้อกูลอ่อนหวานอ่อนโยนด้วยกันทั้งคู่ คอยช่วยเหลือคอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน แต่ก็หวั่นไหวต่อสิ่งเร้าที่อยู่รอบกายได้ง่ายทั้งคู่ หากจะเพิ่มพลังความรักให้กันอย่างจริงใจต้องเพิ่มความมั่นคง ความซื่อตรงในความรักให้มากขึ้น


วันจันทร์
รักกับวันเสาร์ ความแข็งแรงกับความนุ่มนวลที่น่าจะเข้ากันได้ดีผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นความรักที่เปราะบาง อ่อนแอ มีโอกาสที่จะแยกทางกันค่อนข้างมาก ทั้งๆที่ยังรักกันอาลัยกันอย่างสุดซึ้ง

คนเกิดวันอังคาร
วันอังคารรักกับวันอาทิตย์ คนสองคนนี้จะรักกันได้อย่างยาวนาน การใช้ชีวิตร่วมกันต่างคนก็ต่างเก่งกาจมีความสามารถรอบตัว รวมประสานเป็นเพื่อนคู่คิดกันได้ดี แม้จะดื้อบ้างแต่ก็คุยกันรู้เรื่อง ถึงไม่หวานแหววแต่รู้ใจกันน่ะ


วันอังคาร
รักกับวันจันทร์ คู่แตกต่างทั้งความรู้สึกนึกคิด และการดำเนินชีวิต แต่ก็เป็นคู่ที่หวานชื่น คอยช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่กันและกันได้เป็นอย่างดี คอยเป็นที่พึ่งทั้งกายและใจ ดูอบอุ่นแน่นแฟ้นกันได้

วันอังคาร
รักกับวันอังคาร คู่รักคู่นี้ดูไปด้วยกัน ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ คืออีกคนก็ขี้อ้อน อ่อนไหวง่าย อีกคนก็แข็งหน่อยๆใจร้อนพอประมาณ แต่ก็รักกันอย่างซาบซึ้งกินใจ แม้จะผลัดกันง้อ ผลัดกันงอน แต่ก็คอยดูแลเอาใจใส่ ถนอมน้ำใจกันดี


วันอังคาร
รักกับวันพุธ เป็นคู้รักที่รักกัน แต่ไม่สวีตหวานแถมมีปะทะกันขัดแย้งทางความคิดบ่อยๆ แต่รักจริงใจน่ะ คบหากันด้วยความเข้าใจ ถึงไม่สวีตตัวติดกัน แต่คบกันนานแน่ๆ


วันอังคาร
รักกับวันพฤหัสบดี
คู่นี้ขี้บ่นจู้จี้พอกัน คนหนึ่งดื้อเงียบอีกคนใจร้อน โผงผาง แต่เก่งหัวก้าวหน้าด้วยกันทั้งคู่ แบบว่าเพลงป๊อปกับเพลงลูกทุ่ง แต่มีอะไรช่วยเหลือดูแลกันอย่างดีที่สุด


วันอังคาร
รักกับวันศุกร์
เป็นคู่ที่มีความตื่นเต้นท้าทาย เร้าใจเร้าอารมณ์ มีทั้งพ่อแง่แม่งอน ออเซาะฉะเลาะกันบ้างเป็นบางเวลา แต่ต่างก็เติมเต็มส่วนที่ขาดหายซึ่งกันและกัน ความขี้งอนและคิดมากของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ปัญหามันคือยาบำรุง ผลัดกันงอนผลัดกันง้อ น่ารักดีไปอีกแบบหนึ่ง


วันอังคาร
รักกับวันเสาร์
คู่สองเกลอหัวแข็ง อารมณ์ค่อนข้างร้อนแรง ไม่ค่อยโรแมนติก คนรอบข้างพากันหูเฉาะเพราะคู่นี้มักทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าทั้งคู่ก็ผูกพันอย่างลึกซึ้ง เพราะมีอะไรคล้ายๆกันและเข้าใจกันแบบทุกๆเรื่อง


คนเกิดวันพุธ

วันพุธ
รักกับวันอาทิตย์
เป็นคู่รักที่พูดคุยกันอย่างเข้าอกเข้าใจห้วงรักเลายเป็นสีชมพู คอยให้ข้อคิดและกำลังใจที่ดีต่อกัน เหมือนเพื่อนซี้ที่คอยดูแลห่วงใยกันตลอดไป


วันพุธ
รักกับวันจันทร์
เป็นคู่รักคู่คิดเป็นมิตรที่รู้ใจ อยู่ด้วยกันด้วยความเสมอภาคและเข้าใจ ไม่มีใครนำ ไม่มีใครตาม มีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดพอกันมีความรักที่อ่อนหวาน ชอบโรแมนติกเหมือนๆกัน แล้วชีวิตคู่จะพบกับความเจริญก้าวหน้า สุขสบายใจไร้ปัญหา ฐานะมั่นคง


วันพุธ
รักกับวันอังคาร
เป็นคู่รักเป็นคู่เพื่อน เสมือนคนรู้ใจ เมื่ออยู่ใกล้ๆกันจะรู้สึกผ่อนคลาย ไร้ความกังวล บางครั้งอาจไม่เข้าใจกัน แต่ก็ไม่รุนแรงเท่าไหร่ อยู่กันนานๆยิ่งเพิ่มความรู้สึกที่ดี และเข้าใจกัน มีชีวิตที่เรียบง่ายสบายๆอยู่ด้วยกันจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

วันพุธ
รักกับวันพุธ
ความเหมือนที่เหมาะสมลงตัว เป็นที่พึ่งของกันและกันคอยกำลังใจกันในยามที่อ่อนแรง มีความรักความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ใช้ชีวิตหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว สู่ความเป็นเลิศ

วันพุธ
รักกับวันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่สติปัญญาฉลาดเฉลียว มีความรักที่น่าชื่นชมผลิดอกออกผลอย่างสวยงาม ใช้ชีวิตคู่กันอย่างราบรื่นไร้ปัญหาต่างคนต่างก็มีเหตุผลพูดคุยกันอย่างแบบเพื่อน ไม่นิยมความรุนแรงคอยดูแลห่วงใยกันเสมอมา


วันพุธ
รักกับวันศุกร์
ความรักที่มีแต่ความเบิกบานสนุกสนานรื่นเริง จะไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆมากล้ำกลาย เพราะหัวใจที่เป็นอิสระและปล่อยวาง เป็นคู่ที่เปี่ยมด้วยความหวัง พลังศรัทธา ผู้คนต่างพากันชื่นชมแนวทางในการดำเนินชีวิตของคนทั้งคู่ที่เดินทาง
สายกลาง ไม่มากไปไม่น้อยไป


วันพุธ
รักกับวันเสาร์
เป็นคู่ที่อารมณ์อ่อนไหวสุดแสนจะโรแมนติกรักกันอย่างลึกซึ้งและเข้าใจ เป็นไปได้ทุกอย่างถ้าต้องการ คอยดูแลห่วงใยกันไม่เคยห่าง จะคอยส่งเสริมกันทำให้มีบารมีน่ายำเกรง


คนเกิดวันพฤหัสบดี

วันพฤหัสบดี
รักกับวันอาทิตย์
เป็นคู่รักที่ทรงพลัง โดดเด่น ผู้คนรอบข้างพากันชื่นชมยินดี คู่รักที่คอยดูแลช่วยกันผลักดันและให้พลังใจ ไม่ค่อยมีเรื่องให้ทะเลาะเบาะแว้งกัน อยู่กันแบบสบายๆ


วันพฤหัสบดี
รักกับวันจันทร์
คู่รักที่มากด้วยความสามารถ รอบรู้พอๆกันอีกทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่ดูเด่น เมื่ออยู่ใกล้ๆกันแล้วจะพบแต่ความสุข ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่มักจะผิดใจกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆจากความดื้อดึงของทั้งคู่


วันพฤหัสบดี
รักกับวันอังคาร
ดวงของคู่นี้เมื่ออยู่ใกล้กันก็จะมีความแตกต่าง แต่ทว่าปรับเปลี่ยนแนวคิดวิธีใช้ชีวิตให้ลงตัว อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขคอยส่งเสริมเกื้อ หนุนกันเสมอมา มีทุกข์ก็ผลัดกันช่วยปลอบโยน แล้วมันก็ค่อยๆผ่อนคลายมลายหายไป และจะพบกับความเจริญก้าวหน้า แต่ไม่ค่อยสวีตหวานสักเท่าไหร่น่ะ


วันพฤหัสบดี
รักกับวันพุธ
คู่รักคู่นี้ สติปัญญาดีด้วยกันทั้งคู่ เมื่อรักกันก็จะพากันไปสู่จุดมุ่งหมายที่รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า เพราะใช้เหตุและผลในการใช้ชีวิตคู่ คอยดูแลห่วงใยกันทั้งในยามสุขและยามทุกข์ร้อนใจ


วันพฤหัสบดี
รักกับวันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่สติปัญญาล้ำเลิศทั้งคู่ ความรู้ความสามารถเต็มเปี่ยม มีความคิดความอ่าน มีเหตุมีผลในการดำเนินชีวิต คอยท้วงคอยติงขัดแย้งกันด้วยเหตุด้วยผล จะเชิดชูส่งเสริมกันและกันให้ก้าวไกลได้อย่างมั่นคง


วันพฤหัสบดี
รักกับวันศุกร์
เป็นคู่รักที่รักกันอย่างอ่อนโยนและสดใส พูดคุยกันไปปรับความเข้าใจกันไป จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทั้งคู่มีความคล้ายคลึงมากกว่าความแตกต่าง มอบความรักให้กันได้โดยไม่รู้เบื่อ ทำให้มีชีวิตที่สงบสุขฐานะมั่นคง


วันพฤหัสบดี
รักกับวันเสาร์
เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี แต่ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นๆเข้ามาทำให้ไขว้เขวได้ง่ายๆ ถ้ามั่นคงในความรักที่มีให้กันจะทำให้ครองรักกันได้ยาวนาน และพบกับความมั่นคง??ีเงิน
ทองมากมาย


คนเกิดวันศุกร์
วันศุกร์รักกับวันอาทิตย์
เป็นคู่ที่ตรงข้ามกันสิ้นเชิง คนหนึ่งก็หวานแหววและแสนดีส่วนอีกคนก็ร้อนแรง แต่พอมาอยู่คู่กันแล้วกลายเป็นคู่ที่เข้ากันได้ดี แจ่มแจ๋ว ไร้อุปสรรค คนสองคนจะประคองชีวิตรักแล้วก้าวเดินไปด้วยกัน ส่งเสริมกันในทุกๆด้าน แต่จะดีด้านการเงิน


วันศุกร์รักกับ
วันจันทร์
เป็นคู่รักที่งดงามซาบซึ้งใจ แต่ก็หวั่นไหวง่ายหากมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง หากครองชีวิตรั กกันชีวิตก็จะก้าวเดินอย่างมั่นคง เพียงแต่ต้องมั่นคงในความรักให้มากที่สุด


วันศุกร์รักกับ
วันอังคาร
เป็นตัวแทนของความกล้าหาญ อีกคนก็เป็นตัวแทนของความงดงาม เมื่อได้ครองคู่อยู่ด้วยกันแล้วจะพบกับความท้าทาย ความตื่นเต้น เร่าร้อน และความสำเร็จ แต่จะเป็นคนชอบใจน้อย คิดมากกับคำพูดบางคำจนบางครั้งเครียด
ต้องตามง้อกันอยู่ร่ำไป


วันศุกร์รักกับ
วันพุธ
คู่สองคนนี้หากได้มาอยู่ด้วยกันจะมีความสุข สนุกสนาน ผู้คนในสังคมต่างพากันสนใจ และยินดี คนสองคนที่น่ารักเมื่ออยู่ด้วยกันอะไรๆมันก็ดูดีไปหมด


วันศุกร์รักกับ
วันพฤหัสบดี
เป็นคู่ที่มีความรอมชอม อ่อนโยนเข้าใจกัน สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องๆ มีความเหมือนกันหลายๆด้าน
หากรักและมั่นคงจะพานพบแต่ความสุขความเจริญ


วันศุกร์รักกับวันศุกร์

เป็นคู่รักที่หวานชื่นรื่นรมย์ ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาน่ารักทั้งคู่ ถึงแม้นบางครั้งอาจขัดแย้งกันบ้าง แต่ไม่มีอะไรต้องหนักใจ เมื่อเกิดมาคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วคลาดกันหรอก อยู่ด้วยกันจะพบแต่ความสุขความสำเร็จใน
ชีวิต


วันศุกร์รักกับ
วันเสาร์
เมื่อความอ่อนหวานมาอยู่กับความเข็มแข็ง มีความรักมอบให้กันอย่างไม่รู้เบื่อ แต่ก็มีความขัดแย้งกันบ่อยๆ ไม่ค่อยฟังกัน ต่างก็มีเหตุผลกับตัวเอง ส่วนในดวงชะตาก็ส่งเสริมกันจนร่ำรวยหากช่วยกันสองคน


คนเกิด
วันเสาร์
วันเสาร์รักกับวันอาทิตย์
เป็นคู่ที่ทรงพลัง เมื่อมาอยู่คู่กันจะเกิดความแข็งแกร่งเป็นความรักที่มั่นคงยิ่ง เป็นความรักที่เข้าอกเข้าใจกัน นับถือให้เกียรติซึ่งกันและกัน แต่ขาดความศรัทธาสวีตหวานไปหน่อยน่ะ


วันเสาร์
รักกับวันจันทร์
คู่รักที่แตกต่างกันคนละขั้ว เป็นความรักที่เหมือนกับพี่ดูแลน้อง หรือผู้ใหญ่ดูแลเด็ก เป็นความรักที่เกือบสมบูรณ์แต่ยังขาดอะไรไปบ้างที่น่าจะช่วยทำให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น


วันเสาร์
รักกับวันอังคาร
เป็นคู่ที่แข็งแกร่ง และเจ้าทิฐิ มีความรักที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้งแต่ดูเหมือนว่าไฟกับน้ำมันนันยากที่จะอยู่ด้วยกัน เกิดเรื่องร้าวร้อนร้าย ทำให้จิตใจที่อ่อนยวบของคนทั้งคู่จะแหลกสลาย ความสุขที่ควรได้รับน้อยลง


วันเสาร์
รักกับวันพุธ
คนสองคนที่มีจิตใจที่แสนจะอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี ทำอะไรก็ถนอนน้ำใจกันเสมอ เป็นความรักที่ดีงามจะส่งเสริมพากันให้รุ่งโรจน์


วันเสาร์
รักกับวันพฤหัสบดี
เป็นคู่รักที่เหมาะสมกันดี แต่ในทางเดินนั้นก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีคนนอกเข้ามาทำให้ความรักต้องสะดุด หากไม่ตั้งมั่นในรักที่มีต่อกันก็มีอันต้องยุติ แต่หากซื่อตรงต่อกันดี คงไม่มีปัญหาอะไรจะพบกับความสุข มีเงินทองมากมาย


วันเสาร์
รักกับวันศุกร์
คู่รักคู่นี้ดูแลเอาอกเอาใจกันหวานฉ่ำดื่มด่ำแต่เฉพาะในช่วงแรกรักเท่านั้น แม้คนหนึ่งจะอารมณ์ละเมียดมาก อีกคนก็เอาจริงเอาจังและเคร่งเครียดง่าย แต่ทั้งคู่รู้ดีว่าต่างก็รักกัน แม้จะไม่เห็นพ้องต้องกันไปซะทุกเรื่อง ที่จริงแล้ผูกพันกันไม่น้อย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพอนานๆ ไปก็มักจะขัดอกขัดใจกันเพราะบางแง่มุมที่แตกต่างกันนั้นแหละ เลิกกันยาก แต่ก็ไม่หวานชื่นตลอดเวลานักน่ะสิเพราะต่างก็อยากให้คนรักเป็นอย่างที่ตนอยากให้เป็น


วันเสาร์
รักกับ  วันเสาร์

คนที่รักกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าคนคู่นั้นต้องเหมือนกันทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็รักกันได้ดีไม่มีที่ติ คอยช่วยเป็นกำลังใจให้กันได้ดีเยี่ยม เป็นธรรมดาที่ต้องมีขัดแย้งกันบ้างลิ้นกับฟัน แต่ถ้าครองรักกันได้แล้วละก็ ดวงชะตาส่งเสริมกันอย่างบริบูรณ ์ช่วยให้มีความมั่นคงในชีวิตรักได้..




กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------