12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสีในที่ทำงาน...เกิดขึ้นแล้ว
...เห็นกันทุกวัน เพราะทำงานที่เดียวกัน คงมีบ้างนะที่มองไปมองมา สายตาก็จ้องมองกัน รู้สึกเสียวซ่านหัวใจในออฟฟิศหรือสำนักงานนี่แหละท่าน เป็นบ่อเกิดสร้างคู่รักมานักต่อนักแล้ว...
เมอร์ลินเลยได้ที นำเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ในสำนักงานมาโซ้ยซะเลย นัยว่ายังไม่ทันมีใครมายุก็ขอจุดประทัด ด้วยความปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายให้ผู้คนหวั่นไหวเล่น ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจใน 12 สัญญาณว่ามีการเกี้ยวพาราสีในที่ทำงาน...เกิดขึ้นแล้ว (12 Signs of an office flirtation) บอกว่า ถ้าฝ่ายหญิงถูกจีบ มักแสดงอาการดีใจจนเนื้อเต้น และเก็บไว้ไม่ ค่อยอยู่นักหรอก แหม... ปูนนี้แล้ว ยังอุตส่าห์มีคนมาติดพัน มันใช่ย่อยซะที่ไหน แล้วงี้จะไม่ให้ ระริกระรี้ หน้าบานเป็นดอกทานตะวันได้ไงจ๊ะ ความรักกับผู้หญิงน่ะ เป็นของคู่กันอยู่แล้ว แต่อย่าเจอกรณี มีลูกกวนตัว มีผัวกวนตีน ก็แล้วกัน เดี๋ยวหัวใจฟกช้ำดำเขียวไปซะก่อน เมอร์ลินงี้อยากให้ดอกรักได้มีโอกาสฟูมฟักให้บานนานๆ อย่ารักง่ายหน่ายเร็วนักเลย ว่าแล้วก็เลี้ยวกลับมาเข้าเรื่องสัญญาณแต่ไม่ใช่สัญญา ที่ฝ่ายหญิงแสดงออก เมื่ออยากให้ใครมารักหรือตกหลุมรักโป๊ะเชะ มีตั้งแต่
1. ชอบเล่นผมของตัวเอง ในลักษณะของคนใจลอยบ่อยๆ หรือไม่งั้น ถ้ารู้ว่าคนที่เธอสนใจกำลังเดินผ่านมา หล่อนจะจัดแจงแต่งผมให้ได้รูปได้ทรง ยังไงซะ ผู้หญิงย่อมรักสวยรักงามวันยังค่ำ แล้ว " ความสวยความงาม" ก็ดันเป็นเสน่ห์ดึ๋งดั๋งเสียด้วยนะ ไปถามดูเถิดว่า ผู้ชายร้อยทั้งร้อยชอบคนงามหน้าตาจิ้มลิ้มหรือเปล่า ? หากยิ่งเซ็กซี่ด้วย ก็ยิ่งน่าเสียวไส้
2. จะอารมณ์ดีม้าก มาก ถ้าสืบได้ว่า ฝ่ายที่ตามจีบเธอยังเป็นโสด อย่างน้อย หนูก็ยังอยากเป็นเบอร์ 1 ไม่อยากกินน้ำใต้ศอกของใคร แถมเผลอๆ เดี๋ยวได้น้ำตาตกในละก้อ ขืนเจอโชคสองชั้นอย่างงี้ อย่าเจอกันเลยดีกว่า ใครว่า เลือกแฟนก็เหมือนซื้อลอตเตอรี่ก็ใช่ แต่โอกาสถูกเจ๋งเป๋งน้อยกว่ากันเยอะ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอกหนู
3. ใช้ภาษาท่าทางส่ออาการว่าอยากมีรักอย่างเปิดเผย เช่น ถ้าชอบก็เชื้อเชิญอีกฝ่ายด้วยการจับมือถือแขน ทำตัว สนิทสนม หรือถ้ากล้ามาก บางคนเล่นใส่เสื้อคอเว้า หวังโชว์ เนินอกก็มี เรื่องโชว์ ขอให้บอกเหอะ เพราะกลัวไม่ได้โชว์ มากกว่า... ใช่ไหมล้า
4. มักเดินผ่านหวานใจให้เห็นกันทุกวี่ทุกวัน ถ้าไม่ชอบแล้วจะพยายามขนาดนี้รึ
5. ถ้าคุยกันต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ ก็ใช้วิธีส่งอีเมล์กันเหมือนในเรื่องบริดเจท โจนส์ไดอารี่ นั่นแหละ เห็นนั่งหน้าจอคอมฯทั้งวันทั้งคืน บางทีไม่ใช่ขยันทำงานอะไรหรอก แต่พะวงเรื่องอื่นน่ะสิไม่ว่า
6. ถ้าว่างพร้อมกัน ก็ทานข้าวด้วยกัน แล้วอย่าหาว่ามัวแต่จีบกันอยู่นั่น...ไม่ได้นะ เพราะทั้งคู่กำลังเสริมสร้างความเข้าใจ ให้สอดคล้องต่างหาก คนอื่นก็อย่าอิจฉาตาร้อนกันนักเลย เป็นคนขี้อิจฉาไม่น่ารักนะเจ้าคะ
7. ก็ในเมื่อสนิท จะไปไหนมาไหน ก็มักไปด้วยกันหากโอกาสอำนวย อันเรื่องไปไหนมาไหนกับใครๆ เนี่ยนะ แม้แต่เพื่อนก็ยังไปไหนไปกัน ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เฉพาะคนรักกันซะหน่อย ถ้าจะจับผิดก็ควรแยกแยะซะก่อน
8. อยากรู้เรื่องของอีกฝ่ายชนิดทุกซอกทุกมุม เผื่อไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานหรือเดตา เบส ก่อนจะคบหากันให้ลึกซึ้งต่อไปก็ได้นี่ ดีซะอีกจะได้วัดกันไปเลยว่า เมื่อคบกันไปนานๆ ไอ้ที่เขาเคยพูดงั้นงี้มันจริงหรือว่าโกหกทั้งเพ
9. ต่างฝ่ายต่างชอบพูดถึงกัน ให้บรรดาซี้ซั้ว เอ้ย เพื่อนซี้ฟัง
10. บางคนพอมีความรักในที่ทำงานจะฮึดขยันขันแข็งขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ แต่บางคู่กลับตรงข้าม ยิ่งรักยิ่งกัดก็มี เรื่องพรรณนี้ มันอยู่ที่ลมเพลมพัด วันไหนดีก็ดีใจหาย วันไหนร้าย แม่มดเจอกับอสูรกายไงงั้น
11. โต๊ะทำงานเริ่มเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เลอะเทอะอีกต่อไป บอกเป็นนัยๆ นะว่า อีกหน่อยเป็นแม่บ้านแสนประเสริฐได้
12. มีขนมนมเนยที่โต๊ะทำงาน ไว้คอยรับแขกสำคัญ ถ้าไม่ใช่หวานใจฉัน อย่ามาหยิบนะเฟ้ย รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ