วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

69 สิ่งในสมองผู้ชาย? (ที่คุณยังไม่รู้)!!!

69 สิ่งในสมองผู้ชาย? (ที่คุณยังไม่รู้)!!!

386_image1. ฝันที่อยากให้เป็นจริงของเรานั่นคือ เราอยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงสองคนพร้อมกัน แต่เรารู้ว่าถ้าขอจากคุณเป็นเรื่องแน่ เราจึงรอให้คุณเป็นฝ่ายเสนอ
2. ถ้าเราทำงานดึกคืนวันอาทิตย์โดยปิดมือถือ แสดงว่าเรากำลังคั่วกับสาวคนใดคนหนึ่งอยู่ ไม่ว่าเราจะมีข้ออ้างอะไรก็ตาม
3. เราเห็นแก่ตัวมากเรื่องเซ็กซ์ ถ้าเรากำลังทำอะไรบางอย่างให้คุณและคุณชอบ เราจะพยายามบอกว่าเราอยากทำให้มันเสร็จๆ ไปซะ
4. รีโมทคอนโทรลเป็นอวัยวะเทียมอันหนึ่งของเราที่เคลื่อนที่ได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้ถือมันอยู่ก็ตาม
5. ไม่ว่างานวิจัยจะมีผลมาว่าอย่างไร เรายื่นยันว่าเราก็สามารถทำสองอย่างในคราวเดียว(เว้นการดูทีวีและคุยกับคุณไปด้วย)
6. เวลาเราเพิ่งเริ่มความสัมพันธ์กับใคร เราจะพยายามปกปิดจุดอ่อนทางกายอย่างยิ่ง แต่หลังผ่านช่วงฮันนีมูนไปแล้ว เราจะเริ่มตดเสียงดังอีกครั้ง
7. การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองก็เหมือนการเอารถเข้าศูนย์บริการ ถ้าไม่ทำทุกอย่างก็จะเริ่มติดขัด
8. ความเป็นสุภาพบุรุษยังไม่ตายจากโลกนี้ แต่ถ้าคุณอยากให้หยิบของในกระเป๋าของคุณให้ เราก็จะลืมไปซะว่ามีมันอยู่ในโลกนี้
9. เราไม่ใช่คนทรงเจ้า บอกเราเถอะว่าอยากได้อะไร ไม่งั้นคุณจะได้ของที่ไม่ต้องการในวันเกิดแม่
10. ถ้าคุณถาม เราจะบอกเสมอว่าคุณดูสวย แม้จะไม่จริงก็ตาม
11. เรารู้ว่ารถสวยและแพงทำให้คุณประทับใจ แม้คุณจะไม่ยอมรับว่า...ใช่
12. ผู้ชายส่วนใหญ่เชื่อว่าการมีเซ็กซ์กับโสเภณีไม่ถือเป็นการนอกใจ
13. เป็นเรื่องของพันธุกรรมที่ทำให้เราชอบกีฬา ในช่วงหนึ่งของชีวิตของเราอยากเป็นผู้ชนะในเรื่องอะไรสักอย่าง
14. เราจะไม่มีวันทิ้งคุณแล้วหนีไปกับเลขาฯหน้าห้อง เราเลือกที่จะแอบคบเธอไปพร้อมกันมากกว่า
15. แม้เจ้าหนูของเราจะพร้อมเป็นสิ่งแรกยามตื่นนอน แต่ส่วนอื่นของร่างกายยังหลับอยู่
16. อย่าหวังมารยาทจากเรา ถ้าเราไม่โทร.หาคุณภายใน 3 วันหลังมีเซ็กซ์ แสดงว่าเรื่องนี้จบแล้ว
17. เราไม่เข้าใจว่าคุณเห็นอะไรดีในตัว ออร์แลนโด บลูม
18. ควรรู้ไว้ว่าผู้หญิงอ่านแผนที่ไม่ได้ และผู้ชายก็จะไม่ถามทาง อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เลย
19. แม้แต่เกย์ก็ยังเหลียวดูเวลาผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่เดินผ่าน คุณเองก็ยังมอง คิดดูเถอะ! ดังนั้นอย่ามาตบตีเราต่อหน้าคนอื่น มันน่าอาย
20. เรารู้ว่ามันตลก ที่เชื่อว่าผู้หญิงจะใส่ชุดชั้นใน หยิบหมอนทุบตีกันเวลาไม่มีเราอยู่ด้วย
21. ถึงเรามักจะคาดว่าต้องเป็นฝ่ายจ่ายเงินเลี้ยงข้าวคุณ แต่ความเป็นชายของเราไม่บุบสลายหรอกถ้าคุณเป็นฝ่ายเลี้ยง
22. เราไม่มีวันสนิทกับพ่อของคุณได้ เขาเกลียดเรา เราคงรู้สึกแบบเดียวกันถ้าเป็นเขา
23. เราชอบให้ความสัมพันธ์มีความยืดหยุ่น เราถึงสนับสนุนให้คุณเล่นโยคะและพีราตีส
24. ถ้าคุณถาม เราจะบอกเสมอว่าคุณดูสวย แม้จะไม่จริงก็ตาม
25. เราจะไม่พาคุณไปดูหนังของวิน ดีเซล ถ้าคุณตกลงจะไม่พาเราไปดูหนังเรื่องต่อไปของเม๊ก ไรอัน
26. การดื่มเบียร์กับผู้ชายบ่อยๆ จะทำให้เราคิดว่าคุณเป็นแค่เพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง
27. ไม่น่าเกลียดหรอกที่จะมีอะไรกันในเดทแรก จริงๆนะ!!!!
28. การแพร่หลายของภาพโป๊ในอินเตอร์เน๊ต เป็นตัวบอกคร่าวๆว่าเราหลงใหลเซ็กซ์กันขนาดไหน คุณควรใช้มันหาข้อมูลว่าอะไรปลุกเร้าอารมเราได้
29. สิ่งเลวร้ายที่สุดที่คุณทำได้คือการนอนกับเพื่อนคนหนึ่งของเรา
30. กลิ่นปากหลังตื่นนอนทำให้เราหมดอารมณ์
31. 100% ของผู้ชายมีประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกกับตัวเอง
32. ไม่ว่าคุณจะแน่ใจขนาดไหนว่าไม่มีทาง เราก็มั่นใจว่าอย่างน้อยเพื่อนคนหนึ่งของคุณชอบเรา
33. ถ้าคุณบอกเราว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เราจะเชื่อคุณ
34. กรุณาอย่าให้เราเลือกระหว่างคุณกับฟุตบอล เรารักสองอย่างเท่าเทียมกัน
35. ถ้าเพื่อนสนิทของคุณเป็นผู้ชาย แล้วเราบอกว่าไม่ได้คิดอะไร เรากำลังโกหก
36. เราดูหนังเรื่อง Charmed ก็เพราะเสื้อคว้านต่ำของอลิซซ่า มิลาโน่
37. เราไม่มีวันดู Sex And The City เพราะแคร์รี่ย์ไม่เซ็กซี่สำหรับเรา
38. หน้าอกปลอม ยอมรับได้ ผิวแทนปลอม เรารับไม่ได้
39. เราไม่ชอบที่คุณปล่อยตัวหลังแต่งงาน การใส่รองเท้าแตะไม่เซ็กซี่ ควรใส่บู๊ตสูงถึงเข่าจะดีกว่า
40. เรายอมรับว่าคุณใช้เครื่องสำอางทำให้ตัวเองดูดี แต่ถ้ามากเกินไป ไม่แต่งหน้าเลยจะดีกว่า
41. เราชอบกระโปรงสั้นๆและบทสนทนาสั้นๆ
42. เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณไม่สนุกกับการถูกจั๊กจี้ทั้งที่เราสนุกที่ได้จักจี๊คุณ
43. รถของเราไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าหนูของเรา แต่เราชอบรถคันใหญ่และเร็ว
44. เราพอจะเข้าใจที่คุณบ้าซื้อรองเท้า แต่จะไม่ยอมบอกให้คุณรู้ว่าเราเข้าใจ
45. ผู้ชายส่วนใหญ่ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แต่เราจะขอบคุณถ้าคุณไม่บอกเพื่อนของเรา
46. เบียร์เป็นเพื่อนสนิท อย่าพยายามแยกเราจากกัน
47. ระหว่างมีเซ็กซ์ เราชอบให้คุณอยู่บนเพราะเราขี้เกียจ
48. เต้าหู้ไม่ใช่อาหาร
49. อย่ามาเห็นเจ้าหนูของเราเป็นของเล่น เรารู้ว่ามันออกจะใหญ่แบบประหลาดๆ
50. ถึงเราจะบื้อแต่ก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับซูเปอร์โมเดล มีแค่บางคนเท่านั้นที่อยากได้ภรรยาหน้าอกใหญ่ที่ทำอาหารเป็น
51. เราชอบไขมัน ถ้ามันอยู่ในเบคอน
52. อย่าฟังเวลาเรากำลังคุยกับเพื่อน เราจำต้องแสดงท่าทีห้าวหาญต่อหน้าชายอื่น ซึ่งอาจต้องพูดอะไรบางอย่างที่คุณไม่ชอบใจ
53. ถึงคุณจะไร้เหตุผลช่วงวันนั้นของเดือน เราก็จะปล่อยให้คุณคิดว่าคุณพูดถูก เราจะได้ไม่โดนคุณอาละวาดใส่!
54. บางครั้งเราก็ไม่อยากมีเซ็กซ์ซะเฉยๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยจริงๆ
55. เมื่อก่อนวิธีเอาชนะใจผู้ชายคือทำอาหารอร่อยให้เขา เดี๋ยวนี้ต้องให้เขาเล่นเพลย์ สเตชั่น
56. ถึงเราจะแก่ขึ้นทางกาย แต่สมองของเราไม่เคยเกินเด็ก 8 ขวบ
57. เราตกอยู่ใต้อำนาจของเจ้าหนูของเราอย่างสิ้นเชิง เหตุผลและสามัญสำนึกจะหลุดลอยทันทีเมื่อเราเกิดความต้องการทางเพศ เหมือนเวลาคุณมีประจำเดือนนั่นล่ะ
58. เจ้าหนูของเราจะแข็งตัวในสถานที่ที่ไม่สมควร ส่วนใหญ่จะในขนส่งมวลชน อยากรู้ว่าคนไหนก็ให้ดูผู้ชายที่กำลังนั่งขยับตัวกระสับกระส่าย มีกระเป๋าวางบนตัก
59. มือใหญ่และเท้าใหญ่มีความเหมือนที่คุณคิดนั่นล่ะ
60. เราไม่เคยคิดว่า "ขน" เป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายเลยนะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะไปแว๊กซ์หรือย้อมสียังไงก็แล้วแต่...เราไม่รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่หรอก
61. คุณอาจเป็นเจ้านายเราเมื่อยู่บ้าน แต่เราจะเป็นเจ้านายคุณเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น
62. เราใช้เวลาเล่นกอล์ฟกับเพื่อนเพื่อสร้างความสมดุลกับเวลาที่คุณใช้ช้อปซื้อรองเท้า
63. น้ำหอมที่ใส่มากเกินไปก็เหมือนกลิ่นตัวเหม็นๆ
64. เราพูดไม่เก่ง ถ้าเรามีเรื่องปิดบัง เราจะให้ของขวัญ ถ้าเราให้บ่อยๆ ให้จ้างนักสืบติดตามเราได้
65. เราไม่ชอบเลยเวลาคุณเอาเสื้อผูกรอบเอวเพื่อซ่อนสะโพก
66. เวลาคุณสั่งสลัดเป็นมื้อเย็น เราคิดว่าคุณคงมีปัญหาเรื่องกิน ดังนั้นกินให้มากขึ้น!
67. อย่าพยายามแข่งกับแม่ของเรา อาหารที่คุณทำไม่มีวันสู้ของแม่ได้
68. เราจะดู Friends และ Gilmore Girls กับคุณต่อเมื่อเราอยากทำอะไรบางอย่างต่อจากนั้น
69. เราดื่มเบียร์ ขับรถบุ่มบ่าม และคิดถึงเซ็กซ์ตลอด 24 ชม. อย่าพยามเปลี่ยนแปลงเรา มันไม่ได้ผลหรอก!!!!!
ขอบคุณที่มา:pooyingnaka.com




กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons