อยู่ได้ไหม... ถ้าไม่แต่งงาน
มีหลายคนชักสงสัยว่า "ทำไมทุกคนต้องมีแฟน?"..."ไม่มีแฟน จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไหม?"
คนที่ถามส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นคนที่ยังไม่มีแฟน หรือมีแล้วแต่อกหัก เลิกกันไปแล้ว กำลังอยู่ในช่วงทำใจ แต่ก็ยังคิดมากอยู่ เหมือนพยายามใช้ชีวิตอยู่ให้ได้โดยปราศจากเขา
สำหรับคนที่ยังไม่มีแฟน แล้วมองเห็นคู่รักผ่านสายตาไปหลาย ๆ คู่ ข้อสงสัยนี้มักเกิดจาก อาการอิจฉาริษยาเขา ในใจลึก ๆ ก็อยากมีกับเขาบ้าง แต่ไม่มี ก็เลยพยายามคิดว่า ถ้าเกิดเราไม่มีแฟน เราควรจะใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ แต่จะอยู่ยังไง แก่ไปจะเป็นยังไง จริง ๆ แล้วอยู่ได้จริงหรือไม่ นั่นคืออาการไม่แน่ใจ ลังเลใจ
ถ้าถามฉัน แล้วฉันตอบว่า "อยู่ได้" หลายคนก็อาจจะคิดว่า มันเป็นการปลอบใจชัด ๆ เหมือนให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่มีก็ไม่เป็นไร เราก็มีความสุขดีอยู่นี่ ใช้ชีวิตให้สุขกับสิ่งอื่นได้อีกถมเถไป ครอบครัว การงาน เพื่อนฝูง หรือมีความสุขกับการท่องเที่ยว งานอดิเรก สัตว์เลี้ยงต้นไม้ มันก็มีความสุขอยู่ในแต่ละวันได้ แม้จะเป็นรักที่ต่างกัน แต่ถ้าพูดถึงอนาคตไกล ๆ ล่ะ
ถ้าถามฉัน แล้วฉันตอบว่า "อยู่ได้...แต่อย่าไปคิดมาก อย่าเห็นคนอื่นมีครอบครัวแล้วมาเปรียบเทียบกับตัวเองแล้ทุกข์ อย่าเหงา...แล้วจะอยู่ได้" คงมีคนขำ และถ่มน้ำลายใส่ฉัน "ใครจะไปทำอย่างนั้นได้วะ? ไม่ใช่พระใช่ชีนี่ ถึงทำใจได้ มันก็ต้องคิดกันบ้างล่ะ" นี่แหละ...คือคำตอบของปัญหาข้างบน
"อาการอยู่ได้หรือไม่? มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำตอบของฉันหรอกนะ มันขึ้นอยู่กันว่า คุณเข้าใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน? คุณทำใจ และคุณมั่นใจในสิ่งที่คุณเป็นมากน้อยแค่ไหนต่างหาก จะอยู่ได้หรือไม่? ต้องถามใจคุณดู"
ถ้าคุณเชื่อในตัวเอง มั่นคงในตัวเอง ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ไม่ใช้ชีวิตโดยยึดติดกับมาตรฐานสังคมมากนัก คุณก็ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข ขอเพียงคุณยอมรับได้ในสภาพที่คุณเป็นอยู่ แน่นอนว่า...เมื่อผ่านพ้นวัยหนึ่งไปแล้ว อะไรหลาย ๆ อย่างที่คุณเคยมีเวลาทุ่มเทให้มัน มันจะหายไป คุณต้องเผื่อใจไปกับการวางแผนว่า...เมื่อช่วงเวลาเหล่านั้นเกิดช่องว่าง
คุณจะทำอะไร? เช่น ช่วงเวลาที่คุณเคยมีกิจกรรมกับเพื่อน ๆ วันหนึ่ง เพื่อนคุณก็จะมีครอบครัวกันไป หรอกงานอดิเรกบางอย่าง คุณก็จะไม่สามารถทำมันได้อีก ในวัยที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวย คุณจะใช้เวลาเหล่านี้ทำอะไร ช่วงเวลาที่ครอบครัวสุขสันต์ คุณจะอยู่กับอะไรได้บ้าง ต่อให้คุณเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวใคร คุณก็ไม่สามารถเป็นครอบครัวเดียวกันกับเขาได้อย่างสมบูรณ์ พี่น้องคุณก็ต้องมีครอบครัวของเขา พ่อแม่คุณวันหนึ่งเขาก็ต้องจากคุณไป คุณจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไร และอยู่อย่างไร นี่คือสิ่งที่คุณต้องคิด
ถ้าคุณมีการวางแผนและมีคำตอบให้ตัวคุณเอง คุณก็ไม่ต้องกลัวเหงา มันมีบ้างที่เรารู้สึกโดดเดี่ยว แต่ถ้าคุณยังมีความสุขกับสิ่งรอบข้างและตัวคุณเองอยู่ มันจะสามารถทดแทนกันได้ แม้จะไม่สมบูรณ์เสียทีเดียวก็ตาม เพราะความรักในแต่ละรูปแบบ มันต่างการกระทำเสมอ มันไม่สามารถแทนกันได้จริง แต่มันสร้างกำลังใจให้ชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าคุณให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากพอ
ฉันไม่อยากได้คำตอบว่า "อยู่ได้" ของฉัน ทำให้หลาย ๆ คนมองข้ามความรัก จากใครบางคนไป เพราะถึงยังไง ฉันก็ยังถือว่า..."การมีชีวิตคู่ มันมีความอิ่มเอมกว่าอยู่ดี" ไม่เช่นนั้น... ทำไมมนุษย์ถึงต้องมีสองเพศ? และการถือกำเนิดชีวิตใหม่...ถึงต้องใช้คนสองคน? (ตอนนี้มีหลายเพศ แต่เรากำลังพูดถึงการแต่งงาน จึงขอละไว้ก่อนนะ)
ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย หลายคนเมื่อเจอปัญหาคู่ของคนอื่น ก็มักจะเปรย ๆ กับตัวเองว่า "ไม่แต่งดีกว่าปัญหาเยอะ" หรือไม่ก็ประเภทที่แต่งไปแล้วมีปัญหา ก็มักจะบ่น ๆ ว่า "รู้อย่างนี้เป็นโสดจนตายดีกว่า" ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปได้ ฉันว่ายังไงเขาก็ยังเลือกที่จะแต่งงานอยู่ดี!
การได้ใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคน ซึ่งถือว่าเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเราในตอนแรก เพราะเราไม่รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด มันเป็นสีสันหนึ่งของชีวิต มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่น่าสงสัยสำหรับชีวิตมนุษย์ ต่อให้มีความทุกข์ หรือปัญหาเกิดขึ้น มันจะทำให้ชีวิตมีมิติมากขึ้น มีความลึก มีการเรียนรู้ มีการเคลื่อนไหว มีการเปลี่ยนแปลง จะเป็นด้านบวกหรือลบ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวของแต่ละคู่ ว่าจะจัดการกับเรื่องของตัวเองยังไง?
มันเหมือนกับการเล่นเกม หลายคนชอบเพราะอยากเอาชนะมัน เมื่อเล่นแล้วก็ต้องเล่นให้ชนะ ชีวิตถูกส่งมาให้เราเล่นต่างกันตรงต้องคิดให้มากขึ้นกว่าเกมปกติ เพราะเล่นใหม่ไม่ได้ คงต้องไปเกิดใหม่ ตัวเราเป็นตัวเดินเรื่อง มันคงจะดีถ้าเรามีผู้ช่วยเก่งๆ มาช่วยเราใช้ชีวิต บางคนเลือกผิด ทำชีวิตเราพังก็มีบางคนเลือกถูก ก็พาชีวิตเราเดินไปได้ตลอดรอดฝั่ง
ทุกคนล้วนถูกส่งผู้ช่วยมาให้เลือกกัน ทั้งนั้น ไม่มีการเลือกที่รักมักที่ขัง คนที่มักพูดว่า "เดินคนเดียวดีกว่า" จริง ๆ แล้วเขาก็เลือก แต่ดันเลือกผิด คงไม่มีใครหรอกที่มีให้เลือกแล้วไม่เลือก ส่วนคนที่บอกว่า "ฉันไม่เห็นได้เลือกเลย ไม่เห็นเขาส่งใครมาให้ฉัน"
ถ้าคุณมองให้ดี ๆ ลองทบทวนอีกที อาจจะมีบางช่วงเสี้ยววินาทีที่คุณเดินอยู่ มีใครบางคนที่คุณคิดว่าไม่น่าไว้ใจผ่านมา คุณแค่ประเมินด้วยหางตา แล้วคุณก็รีบเดินห่าง ๆ หรือรีบผ่านเขาไป โดยไม่กล้าแม้จะเหล่ตามอง ได้เฉียดใกล้เขาไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ คนคนนั้น อาจเป็นอัศวินขี่ม้าขาว ที่จะช่วยคุณออกมาจากถ้ำมังกร ถ้าเพียงคุณให้เวลากับเขามากกว่านี้
อย่าบอกนะว่า...คุณไม่เคยเดินสวนกับใคร มาก่อนเลยในชีวิต!
หนังสือ : ชีวิต...เราเอาไงดี?
เขียนโดย : ว.แหวน