วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ผญาภาษิตคำสอนอีสาน36ข้อบอกเหตุการณ์อนาคต

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

บั้นพยากรณ์หรือกาลนับมื้อส่วย111

เป็นคำสอนที่มุ่งเตือนสติให้ตั้งมั่นอยู่ในหลักของศีลธรรม ถ้ากาลเวลาล่วงผ่านไปจิตใจของมนุษย์นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป และท่านได้มุ่งสอนคล้ายกับปัญหาของพระเจ้าปัสเสนทิโกศลมาทูลถามกับพระพุทธเจ้า แต่ของภาคอีสานท่านเรียกว่ากาละนับมื้อส่วย(เสื่อมถอย,หย่อนยาน)ทั้งคลองศีลธรรมและจารีตประเพณีต่างๆก็จะเสื่อมถอยไปด้วย เพราะมนุษย์มองไม่เห็นคุณค่าของศีลธรรมแต่กลับไปเชิดชูวัตถุแทน ดั่งนั้นท่านนักปราชญ์จึงได้แปลงสารเพื่อให้พี่น้องชาวพุทธได้หันกลับมาสู่หลักธรรมของพระพุทธเจ้า ดังนี้คือ

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑) บัดนี้กาละนับมื้อส่วยหลายปีเป็น อันต่างมาแล้ว

พระหากเทเทศน์ไว้ ภายสร้อยศาสนา

หมายถึงกาลเวลาผ่านไปหลายปีก็จะมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นก็จะมีการเสื่อมถอยหย่อนยานบั้นปลายศาสนา

เกาะที่มีต้นปาล์ม๒) ฝูงหมูหญิงชายส่วยสิบสาม สิมีลูกลือแล้ว

ชายและหญิงจำถูกกิเลสเข้าครอบงำแล้วจะมีลูกก่อนวัยอันควรอย่างดาดดื่น

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓) นักปราชญ์ถมแม่น้ำนทีกว้าง ขาดเขิน

หมายถึงนักปราชญ์ไม่กล่าวสอนธรรมหรือโลกจะขาดธรรมะหรือมีดร.เต็มบ้านเต็มเมืองแต่ประชาชนไม่ได้ความรู้จากเขาเลย

เกาะที่มีต้นปาล์ม๔) แม่นว่าสังฆะเจ้าทรงธรรม ในสูตรก็ดี

ยังเล่าแปลงจ่ายเชื้อเงินด้วง คั่วขาย

แม้ว่าพระสงฆ์ก็ยังมีการชื่อขายแลกเปลี่ยนเงินตราเหมือนชาวบ้าน(ชื่อหวย)

เกาะที่มีต้นปาล์ม๕) ลางเหล่ายังจำมั่นคำสอน พุทธบาทก็มี

สังฆะสมณ์สิ่งนั้นมีน้อย บ่หลาย

บางหมู่คณะก็ตั้งมั่นในคำสอนของพระพุทธจ้าแต่ว่ามีน้อย

เกาะที่มีต้นปาล์ม๖) โจราได้ทะวาวคำ ม้าขี่ก็มี

หมายถึงข้าราชการปล้นชาติจะมีรถยนต์นั่งฟรีน้ำมันฟรี

เกาะที่มีต้นปาล์ม๗) นักปราชญ์เป็นงาวง่วงถือกระเบื้อง คั่วขอ

คนหลักเป็นคนใบ้ใจเบา คิดบ่ถืก

หมายถึงคนดีๆจะทำตัวเหมือนคนใบ้ไม่สนใจใคร คนดีจะท้อใจเพราะสังคมไม่รับรองและคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี มีแต่ความวางเฉยต่อเหตุการณ์บ้านเมือง

เกาะที่มีต้นปาล์ม๘) หินแฮ่ไหลล่องแก้งโฮฮ้อง สนั่นเมือง

หมายถึงคนไม่รู้หลักการบริหารแต่ได้ดีเพราะการประจบเจ้านาย

เกาะที่มีต้นปาล์ม๙) กบเขียดฮ้องประสงค์อ่าน โคลงสาร

ฝูงหมู่งูเพาพิษเงือกสิกลัว เกรงย้าน

ถึงเวลาแล้วประชาชนจะขับไล่ไปเอง(ประท้วง)

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๐) หินอยู่น้ำไหลล่อง ตามกระแสร์

เขาก็ไลสาครไปอยู่นอน ในบ้าน

หมายถึงผู้ที่เคยมีหลักหนักแน่นก็จะเป็นไม้หลักปักขี้ควาย

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๑) ปลาบึกขึ้นหนีสาคร ค้างหาด

คึดสิขึ้นอยู่ลี้ปลายไม้ สิ่งแลน

ปูปลาฮู้เปิดน้ำหนีหน่าย วังปลา

คนดีๆมีศีลธรรมจะพากันหลีหนีไป

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๒) เขาก็แยงภูผาเถื่อนพนา เนาค้าง

สระบ่มีน้ำ เอาไปทำไว้สู่แห่ง

อุแอ่งหม้อหมางน้ำว่า สิหนี

หมายถึงผู้มีอำนาจฝ่ายปกครองจะโกงกินบ้านเมืองทำให้ประชาชนเดือนร้อน

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๓) เอี่ยนก็มาเปิดน้ำสิหนีจาก วังตม

เขาก็ไปแปงฮวงฮังอยู่เทิง ปลายไม้

หมายถึงประชาชนเบื่อละอาจริงๆ

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๔) งูเงือกพร้อมหนีเขื่อน ชลธา

เขาสิเนาภูผาบ่อนมัน บ่มีน้ำ

หมายถึงลูกหลานชาวบ้านขาดการเหลียวแลจากรัฐบาลจะหนีเข้ากรุง

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๕) มาลาฮ้างฮามสูญ เสียกลิ่น

หงษ์คำก้มกราบไหว้ประนมน้อม หมู่กา

หมายถึงคนดีจะทำลายศักดิ์ศรีตนเองไปหลงกราบไหว้งอนง้อคนชั่ว

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๖) หมากพร้าวมาเปิดต้นตกล่วง ลงดิน

มันบ่ยินดี ดอมผู้เฮ็ดบุญเป็นการค้า

หมายถึงผู้มีศีลจะลดตัวลงไปเป็นลูกน้องของคนชั่วที่วางตัวเป็น

เกาะที่มีต้นปาล์ม๑๗) ครกมองฮ้างหมางเมิน ข้าวเปลือก

ซ้าหลอดมาเปิดเบี้ยแถมซิ้น ใส่ใน

หมายถึงคนจะหันหลังให้วัฒนธรรมของตนเอง

กุหลาบแดง๑๘) จวงจันทร์หล้างของแพง ทางเทศสเภาพุ้น

มาคั่นหิ้วหูซ่า เที่ยวขาย

หมายถึงของปลอมจะเต็มบ้านเต็มเมือง

กุหลาบแดง๑๙) มณีนีลเศร้าเสียแสง สรรพฮูปมีแล้ว

หินแฮ่เป็นหน่วยแก้ว พิลาเข็มค่าสิแพง

ยูงยางต้น ลำงามสิตายแดด

ขอนดอกไหลล่องน้ำ สั่งมาปิ้นป่องใบ

หมายถึงคนดีจะไม่ได้ดีแต่คนชั่วกลับได้ดีเพราะนายมันชั่ว

กุหลาบแดง๒๐) ไก่น้อยให้ กินนมนำกา

หมาน้อยไห้ กินนมนำเสือโคร่ง

หมายถึงชาวบ้านจะพากันขอกินผู้แทนๆ(ชื้อเสียง)ก็จะไปถอนทุนคืนเหมือนไก่ถูกกากิน หมาน้อยถูกเสือกัน

กุหลาบแดง๒๑) หมากน้ำเต้าหน่วยแห้ง สิจมลงทางลุ่ม

หินอยู่ใต้น้ำ สิฟูขึ้นดังสโน

หมายถึงคนดีจะไม่มีคนเลือกแต่จะไปเลือกเอาคนชั่วมาปกครองบ้านเมือง

กุหลาบแดง๒๒) เขาสิฆ่ากันตาย คือขอนไฮ่

มีแต่โลภอยากได้ บ่มีเอื้ออ่าวศีล

หมายถึงผู้ถูกเลือกจะฆ่ากันเองเพราะผลประโยชน์ไม่ลงรอยกัน

กุหลาบแดง๒๓) มณีนิลเศร้าเสียแสง สลับเพศ

หินแฮ่เกิดเป็นหน่วยแก้วพิลาเข้ม ค่าแพง

หมายถึงคนดีจะถูกเจ้านายชั่วเอาคนชั่วมารับความชอบแทน

กุหลาบแดง๒๔) บัวขี้แบ้บานเกิด กลางหนอง

บัวทองเกิดหัวสวน บ้านเก่าเฮาบ่อนเคยยั้ง

หมายถึงคนดีๆทนระบบไม่ไหวก็ลาออกไป

กุหลาบแดง๒๕) ฝนตกโฮ่งไหลลงโฮม โคกโท้โล้

ที่ลึกมาแล่นตื้นไปห่ง แต่บ่อนเขิน

หมายถึงคนได้ดียิ่งได้ดีหรือคนรวยยิ่งรวยคนจนยิ่งจน(ปลาใหญ่กินปลาเล็ก)

กุหลาบแดง๒๖) กาดำดั้นบินไป ลี้ลอบ

ภูใหญ่ผาแผ่นล้านตัวเต้า ต่ำปู

หมายถึงคนชั่วรอบรู้โวหารเก่งคนใหญ่คนโตยอมสยบให้

เกาะที่มีต้นปาล์ม๒๗) คนเล่าพากันสร้างตันป่อง ชลธี

ปลาก็บินบนแยงเมฆพะโยม ยังฟ้า

หมายถึงการโกงกินจะมีอยู่ทุกวงการ

กุหลาบแดง๒๘) หนูซิงตะบะให้แมวบักดำ ก้มขาบ

หมาจอกมาเห่าช้าง เป็นน่าอยากหัว

หมายถึงประชาชนเจ้าของประเทศจะถูกข้าราชการผู้เป็นลูกจ้างของตนข่มเหง

เกาะที่มีต้นปาล์ม๒๙) หมาจอกขึ้นวอทอง คนหามแห่

คันคากมันอยากได้ฉัตรกั้น แข่งฝน

หมายถึงคนชั่วจะได้รับการยกย่อง

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓๐) ขี้กระเดือนฮู้บินบน อากาศ

หินก้อนล้านฟูน้ำ ล่องไหลแท้นอ

หมายความว่าคนไม่มีความรู้ทั้งไม่มีศีลธรรมจะครองบ้านครองเมือง

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓๑) พระสงฆ์เจ้าบ่มีสอน ธรรมสวากข์

มีแต่ความขี้คร้านฉันแล้ว ก็เหล่านอน

หมายความว่าพระสงฆ์ไม่เอาธุระในพระศาสนา

๓๒) ฝูงคนเฒ่าศีลธรรม บ่มีเชื่อ

เชื่อแต่คนขี้เหล้า มาเว้าแจกเงิน

หมายถึงคนเฒ่าคนแก่จะไม่มีศีลธรรม

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓๓) ความเดือนฮ้อน คนก่อให้มันเป็น

มีแต่อัปปรีย์เป็น ให้หมั่นเห็นเลิงพ้อ

หมายถึงคนจะเกิดเดือดร้อนเพราะบาปที่ตนก่อ

๓๔) คนสิตายถ้อนเข้าเหลือสาม ฮ่มโพธิ์ศรี

เขาจึงมีใจคิด เฮียกหาพระไตรแก้ว

หมายถึงเมื่อคนขาดศีลธรรมเข่นฆ่ากันเองตายมากขึ้นคนเหลือน้อยจนจะสูญพันธุ์ คนจึงใฝ่หาศีลธรรม

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓๕) ต่อจากหั่น พระยาธรรมสิมาซ่อย

หินอยู่พื้นสิจมลง คือเก่า

บักน้ำเต้าหน่วยแห้ง สิฟูขึ้นดั่งเดิม

หมายถึงเมื่อคนประพฤติแล้วธรรมก็คุ้มครอง คนชั่วจะถูกเกลียดชัง คนดีจะเป็นที่ยอมรับคือได้รับการยกย่อง สรรเสริญ

เกาะที่มีต้นปาล์ม๓๖) ทุกสิ่งเชื้อที่เกิดอยู่ เมืองมนุษย์

เขาสิมีความสุข ทุกข์บ่มีมาใกล้

หมายถึงว่าทุกชีวิตไม่ว่าคน,สัตว์ ต้นไม้ เขาจะไม่เบียดเบียนกันจะมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไปเพราะการรักษาศีลธรรม


111 สวิง บุญเจิม,กาละนับมื้อส่วย,(อุบลราชธานี:โรงพิมพ์ปรชามติออฟเซท) , ๒๕๓๙ , หน้า ๑๒๘–๑๓๓




กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons