วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สัญญาณบ่งบอกว่า "เค้าปิ๊งคุณเข้าแล้ว"

สัญญาณบ่งบอกว่า "เค้าปิ๊งคุณเข้าแล้ว"
ว่ากันว่า... เรื่องของความรักมักไม่เข้าใครออกใคร บางคนรักคนที่เขาไม่ได้รักเรา บางคนรักคนที่เขารักเรา แต่เรากลับรู้สึกว่ารักใครอีกคน ในขณะที่เราก็ยังรักเขาอยู่ โอ้ย... ซับซ้อน ซ่อนเร้น พาให้งงงวยสุด ๆ ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนแรกนั่นแหละว่า "ความรักมักไม่เข้าใครออกใคร" ยากที่จะอธิบายให้ใครอื่นเข้าใจได้ ในเมื่อบางทีเราก็ยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ (จริงไหม)
เอาล่ะ!! ความรักจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ จะรักซ้อนซ่อนเงื่อน แอบรักเพื่อน รักแฟนชาวบ้าน หรือว่าแอบรักคนข้างบ้าน (ก็ว่าไปนั่น) ทั้งหมดทั้งมวลก่อนเกิดความรู้สึก "รัก" ล้วนเกิดจากความถูกใจ ความชอบ หรืออาการแปลก ๆ ที่เราเรียกมันสั้น ๆ ว่า "ปิ๊ง" ก่อนนั่นเอง
วันนี้เราจะไม่พูดถึงอาการของคนที่แอบปิ๊ง ว่าจะมีพฤติกรรมเพี้ยน ๆ ยังไง แต่เราจะมาดูสัญญานประหลาด ๆ ที่มีเสียงดังว่า... ปิ๊ง ปิ๊ง ปิ๊ง แถมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเรา หากคุณกำลังคิดและสงสัยว่า มีใครบางคนกำลังแอบปิ๊งคุณอยู่ ก็ตามไปดูสัญญานแปลก ๆ ต่อไปนี้ได้เลย ซึ่งถ้าคนใกล้ตัวคุณเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องสงสัยว่าเขาเป็นอะไร เพราะอันที่จริงแล้ว เขาแค่กำลังปิ๊งคุณอยู่นั่นเอง... ฮิฮิ้วววววว (อันนี้สำหรับสาว ๆ โดยเฉพาะนะคะ แต่หนุ่ม ๆ ก็อ่านดูได้ ว่าทำอะไรให้คุณสาว ๆ เขาจับได้หรือเปล่า อิอิ)
อย่างแรกเลย... อยู่ดี ๆ เขาก็หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น จากเคยทำตัวซกมกสกปรก ตัวเหม็น หน้ามอม ก็เปลี่ยนมาเป็นคนสะอาดสะอ้าน หน้าใส รู้จักใส่น้ำหอม ประมาณว่าทำตัวหล่อขึ้นหวังจะให้เราสนใจในตัวเขามั่ง (555)
เขามักโผล่มาให้เราเห็นอยู่บ่อย ๆ แรก ๆ ก็คิดว่าบังเอิญนะ แต่หลัง ๆ ทำไม๊... ทำไมมันบังเอิญทุกวันเลยว้า... ก็รู้อยู่ว่าเวลานี้เราต้องทำอะไรที่ไหน ก็จะเห็นเขาอยู่แถวนั้นทุกทีไปสิท่า
อยู่ดี ๆ เขาก็กลายเป็นคนเสียงดังขึ้น ชอบพูดจาเสียงดัง ๆ หวังจะให้คุณหันไปสนใจล่ะสิ หรือไม่ก็จะได้ยินเสียงเขาอยู่ใกล้ ๆ ตัวคุณอยู่บ่อย ๆ นั่นเพราะเขาพยายามทำให้คุณรู้ว่า เขาไม่ได้ห่างคุณไปไหน เพราะแค่ได้แอบมามองคุณ ถึงคุณจะไม่สนใจ ก็ขอให้ได้ยินเสียง (ของหัวใจ) เขาบ้าง
เขาชอบหาเรื่องมาแกล้ง หรือแหย่คุณให้งอนเล่น ๆ ไปจนถึงกวนอารมณ์คุณให้โมโห (บางทีก็โดนคุณด่าด้วย) จุดประสงค์คืออยากหาเรื่องคุยกับคุณนั่นเอง
ทำเป็นโทรหาคุณ แล้วถามว่า "เมื้อกี้โทรมาหรือเปล่า เห็นเบอร์มันโชว์" (ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้โทรไป) พอคุณบอกไม่ได้โทรไป เขาก็ทำเป็นช่างมันเถอะ สงสัยเข้าใจผิด แล้วก็ชวนคุณคุยเรื่องอื่นต่อซะยาวยืด... (มุกนี้เคยโดนกันไหมคะสาว ๆ) บ้างก็มี sms บอกประมาณว่า... ทำอะไรอยู่ / กินข้าวหรือยัง / วันหยุดนี้ไปเที่ยวไหน ซึ่งล้วนเป็น sms ที่หวังจะให้คุณตอบกลับ (เช็คเรตติ้งว่างั้น!!)
หลังจากคุยกันครั้งแรกแล้ว เขาก็มักโทรมาหาคุณบ่อย ๆ โดยอ้างว่า คุณเป็นคนคุยสนุก คุยเก่ง นิสัยดี พูดจาน่ารัก ทำให้อยากคุยด้วย บางทีก็สรรหาเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ฮา ๆ มาคุยกับคุณ หวังจะให้คุณชอบ
เขาเล่าเรื่องส่วนตัวของเขาให้คุณฟังอย่างเปิดเผย ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน เพราะเขาเห็นว่าคุณเป็นคนสำคัญ
เขาให้ความสำคัญกับคุณเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน มักมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงใหญ่เวอร์มาฝากคุณตลอด จะว่าไป... ขนาดเจ้านายเขา เพื่อนสนิทเขา ก็ยังไม่ได้ของฝากขนาดนี้ (โอ้ย... อย่างนี้ก็ไม่ปกติแล้ว ฮ่า ๆ)
เขาสามารถจำบทสนทนา คำพูดของคุณ หรือกิจกรรมที่ทำร่วมกับคุณได้เกือบทุกตอน ประมาณว่า... ถามมา ตอบได้!! อับดุลเอ้ย เอ้ย! ไม่ใช่แระ (555) นอกจากนี้ เขายังจดจำเรื่องราวของคุณได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอะไร เกิดวันไหน เดือนอะไร ปีอะไร พ่อแม่ชื่ออะไร (อันหลังนี่ไม่ต้องรู้ก็ได้มั้ง)
เขามักสังเกตพฤติกรรมของคุณ ประมาณว่าเป็นห่วงเป็นใย ไม่ว่าจะไอ จะจาม จะหน้าดำหรือว่าแดง ก็เป็นห่วงไปหมด หากวันไหนหน้าซีด ขี้มูกยืดไหลย้วย (ออกแนวน่าเกลียด) ไม่นาน... ยาสารพัดขนานก็มากองอยู่ตรงหน้าคุณ
เขามักทำตัวติ๊งต๊อง ฮา ๆ บ้า ๆ เพื่อให้คุณได้หัวเราะ เพราะคิดว่าร้อยทั้งร้อย ผู้หญิงชอบผู้ชายตลก ขี้เล่น (แต่ไม่เล่นขี้) บางทีทำไปก็ไม่ขำ แต่อยากทำให้คนที่รู้สึกพิเศษมีความสุข ยิ้มได้ก็เท่านั้น (ว้าว...)
เขามักหงุดหงิดงุ่นง่าน พาลไม่มีเหตุผล (กับคนอื่น) ทุกครั้งที่มีผู้ชายคนอื่นเข้ามาใกล้ ๆ หรือยุ่งกับคุณ เป็นเพราะอารมณ์หึงหวง แต่ก็ต้องเก็บความหึงหวงนั้นไว้ในใจ เพราะแสดงออกไปมากก็ไม่ได้ ในเมื่อเรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน (น่าสงสารนิด ๆ นะเนี่ย)
เขามักสัมผัสตัวคุณเท่าที่โอกาสเอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นการหยิบส่งของ ก็ขอโดนมือหน่อย พอให้หัวใจได้เต้นแรง เดินผ่านก็ขอเฉี่ยวบ้างอะไรบ้าง พอให้จิตใจได้กระชุ่มกระชวย พอเวลาไปปาร์ตี้ หรือไปหาอะไรกินกันเป็นหมู่คณะ ก็ขอนั่งข้าง ๆ โดยอ้างว่าบังเอิญเกาอี้มันว่างพอดี (จริง ๆ แล้วอยากใกล้ชิดมากกว่าอ่ะดิ๊ 555)
อูย... เผลอแป๊บเดียวไหงมันร่ายยาวไป... ยาวไปเลยว้า เอาเป็นว่าหากคนใกล้ตัวคุณมีพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็เดาได้เลยว่าเขาน่ะแอบปิ๊งคุณอยู่แน่นอน จะชอบหรือไม่ชอบตอบ ก็ลองถามใจตัวเองดูแล้วกันนะคะ
ที่มาkapook.com

เทคนิค "ง้อคนรัก" ให้กลับมารักกันอย่างเดิม

เทคนิค "ง้อคนรัก" ให้กลับมารักกันอย่างเดิม
ความรัก เป็นเรื่องสวยงาม เป็นเรื่องของความรู้สึกๆ ดีที่มีให้กัน แต่บางครั้งอาจมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้น เมื่อไม่เข้าใจกัน อาจทำให้ ความสัมพันธ์มีปัญหาได้ ครั้งสองครั้ง คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามากเกินทน อาจทำให้คนรัก เกิดเหนื่อยหน่าย ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก
ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นความผิดพลาดของเรา ขอให้ยอมรับผิด และเริ่มต้นใหม่ เรามีวิธีมาแนะนำให้กับคนที่กำลังมีปัญหากับคนรัก ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เลิกหรือไม่เลิก มาให้ลองนำไปใช้กันดู
แสดงออกอย่างจริงใจ
มีใครบ้างไม่ชอบคนจริงใจ ซื่อสัตย์ ข้อสำคัญคือ อย่าโกหกปิดบัง บอกว่าทำไมคุณถึงทำผิด และคุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่ทำลง ไปบ้าง และทำให้เขาหรือเธอเชื่อว่า คุณไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีเขาหรือเธอคนนั้น
มอบของขวัญชิ้นพิเศษ
เป็นเครื่องสื่อแทนใจ แสดงการง้อขอคืนดีได้เป็นอย่างดี ควรเลือกของขวัญที่มีความหมายพิเศษ โดยเฉพาะลองหาบางสิ่ง บางอย่างที่กระตุ้น ให้เขาหรือเธอคิดถึงช่วงเวลาลึกซึ้งของพวกคุณที่มีร่วมกัน เช่น ถ้าคุณรู้ใจว่าเขาหรือเธอชอบอะไรมาก ๆ ก็ให้สิ่ง นั้นเป็นของขวัญซะเลย แบบนี้จะไม่ใจอ่อนได้อย่างไร
ลองชวนออกเดทดู ว่ายังหวานอยู่หรือไม่
ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเคยๆ ออกไปเที่ยวกันสองคนบ้าง เพื่อฟื้นความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นใหม่ และเป็นอีกหนทางที่จะพิสูจน์ว่าคุณยัง จริงจังกับเขาหรือเธอมากแค่ไหน หรือจะสร้างบรรยากาศชวนโรแมนติก ให้เหมือนครั้งแรกรัก และทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาหรือ เธอมองคุณในทางที่ดีขึ้น
ดูแลตัวเองให้ดี
คงไม่ดีแน่ ถ้าคุณตรอมใจ ยอมแพ้และปล่อยให้ผมเผ้ารุงรัง เป็นยานเพิ่ง หรือปล่อยเนื้อตัวจนหาความหล่อไม่เจอ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่งตัวให้ดูดี แบบนี้ไม่ว่าเขาหรือเธอเห็นเข้า ก็ย่อมอยากกลับไปรักคุณอีก
บอกไปว่า คุณยังรักเขาหรือเธออยู่
สำหรับผู้หญิง คำ 3 คำนี้ ยังมีความหมายเสมอ แต่ก็ไม่เสมอไป ถ้าผู้ชายทำตัวเจ้าชู้ประตูดิน และใช้คำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แนะนำ ว่าอย่าใจอ่อนเด็กขาด ตัดหางปล่อยวัดไปเลย สำหรับผู้ชาย สุภาพบุรุษตัวจริงย่อมเห็นใจและให้โอกาสคุณเสมอ เว้นเสียแต่ว่าคุณ หลอกเขามาไม่รู้เท่าไหร่ แน่นอนเขาก็ไม่อยากเป็นของตายของคุณ ดังนั้นสำหรับคู่รักที่มีเยื่อใยกันอยู่ ไม่มีปัญหาแบบมีมือที่ 3 4 หรือแบบที่กล่าวมา คำ ๆ นี้ยังสามารถใช้ได้อยู่จ้ะ
สะกิดใจเขาหรือเธอ ถ้าไม่กลับมารักกัน อาจพลาดอะไรดีๆ ไปก็ได้
คุณอาจเรียกร้องความสนใจ โดยทำให้เขาหรือเธอหึงก็ได้ เผื่อเขาหรือเธอคนนั้นจะกลับมาชอบคุณใหม่อีกครั้ง แต่ก็ต้องระวัง สำหรับวิธีนี้ หากทำไม่ดีเขาหรือเธออาจหมั่นไส้ เกลียดขี้หน้าคุณไปเลยก็ได้ ดังนั้นถ้าจะใช้วิธีนี้ ระมัดระวังกันด้วย
ปรับความเข้าใจต่อกัน
คุณปรับตัวเป็นคนใหม่ และอยากปรับความเข้าใจ แต่อย่าใจร้อน เพราะถ้าขนาดอยากปรับความเข้าใจยังปรับความร้อนรนของตัว เองไม่ได้ ก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะกลับไปเป็นแฟนกันอีกทีดีไหม
อย่าพูดอย่างทำอย่าง
ถ้าบอกว่ายังรักอยู่ จะปรับปรุงตัว และอยากคืนดี แต่ตัวเองกลับไม่พยายามปรับปรุงตัว หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น ฝั่ง โน้นก็ไม่คงไม่อยากเสี่ยงกับคุณอีก เพราะมันไม่มีความน่าเชื่อถืออะไรเลย ดังนั้นนอกเหนือจากการพูดว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อ เขาหรือเธอแล้ว ต้องปฏิบัติให้เห็นจริงด้วย
สัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดี
รักกันใหม่แล้วก็ยังทำผิดซ้ำๆ ย่อมเสียความรู้สึกเปล่าๆ ฉะนั้นควรทำให้เขาหรือเธอใจชื้นด้วยการสัญญา ว่าจะเป็นแฟนที่ดีตลอดไป แต่คุณต้องทำจริงๆ ด้วย เพราะโอกาสแก้ตัวไม่ได้มีให้กันบ่อยๆ หรอกนะ
ที่มา thaiza.com

ภรรยา "แบบไหน ถูกใจใช่เลย"

ภรรยา "แบบไหน ถูกใจใช่เลย"

เรื่องอย่างว่าของผมวันนี้เป็นเรื่องที่ผู้หญิงควรรู้ เพราะเป็นการบอกความในใจว่า ผู้ชายเขาต้องการอะไรจากผู้หญิงบ้าง แต่อย่างว่าล่ะครับผู้ชายแต่ละคนก็มีความต้องการความคาดหวังกับผู้หญิงไม่เหมือนกัน จะเหมาเอาผู้ชายทั้งโลกเหมือนๆกันหมดคงไม่ได้
ผู้หญิงเราก็ต้องใช้สมองใช้ความคิดเหมือนกันว่าคุณผู้ชายหรือสามีของเราเขาต้องการอะไร ซึ่งในผู้ชายคนเดียวกัน แต่เวลาต่างกันสถานการณ์ต่างกันก็มีความต้องการไม่เหมือนกันอีก เฮ้อ..เอาใจยากจะตาย(แต่ผมว่าคงสู้ผู้หญิงไม่ได้แน่)

 

เริ่มกันตั้งแต่ตอนวัยรุ่นเลยดีกว่า แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าวัยรุ่นสมัยผมกับวัยรุ่นสมัยนี้มันไม่เหมือนกันเดี๋ยวมาอ่านแล้วจะว่าผมเป็นพวกไดโนเสาร์ ดูใจกันเป็นเรื่องเป็น ราวค่อนข้างจะนานกว่าจะตกลงปลงใจได้ แต่เดี๋ยวนี้เจอกันแว๊บเดียวก็ไปกะเขาเสียแล้วผู้ชายจีบผู้หญิงในสมัยก่อนดูเหมือนจะเป็นเพราะความรักที่แท้จริงมากกว่าสมัยนี้ เพราะความสนุกความบันเทิง สิ่งยั่วยุมันมากมาย พออยู่กันไปก็มารู้สึกกันทีหลังว่าสิ่งที่ทำไปนั้นไม่ได้เกิดจากความรักที่แท้จริง เลยต้องเลิกร้างกันไปซะเยอะ
ความต้องการของผู้ชายอย่างแรกก็คือความรัก คนเราอยู่ด้วยกันได้ไม่นานหรอกถ้าไม่มีความรักซึ่งกันและกัน ถึงอยู่ด้วยกันได้แต่ก็ไม่มีความสุขหรอกครับ คนเราที่แต่งงาน กันก็ต้องเริ่มต้นมาจากความรักกันทั้งนั้น แต่ต้องยกเว้นพวกที่แต่งงานหวังสมบัติ หรือ พ่อแม่จับคลุมถุงชนบังคับแต่ง ซึ่งสมัยนี้คงไม่มีกันแล้วมั้ง ความรักเป็นความรู้สึกเดียวที่ทำให้ ผู้หญิงกับผู้ชายสามารถอยู่ด้วยกันได้เป็นปีเป็นชาติอย่างมีความสุข กลับมาเจอหน้ากันก็มีความสุข กินข้าวด้วยกันก็มีความสุข คุยกันก็มีความสุข นอนด้วยกันก็มีความสุข มีอะไรกันก็มีความสุข
ผู้ชายที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ต้องเจอเรื่องอะไรต่ออะไรมามากมายตกเย็นแล้วก็อยากกลับไปเจออะไรที่ทำให้มีความสุขสบายใจ เมียที่บ้านก็ต้องแสดงออกให้เห็นด้วยนะครับว่ารักเขาด้วย ไม่ใช่ปากก็บอกว่ารักแต่ที่ไหนได้พอสามีกลับมากลับบ่นตั้งแต่เหยียบเข้าบ้าน เรื่องโน้น เรื่องนี้ไม่รู้ขุดจากไหนมาบ่น กินข้าวก็บ่นกันไปตลอด ไม่ว่าจะทำกับข้าวมาอร่อยขนาดไหนมันก็กินไม่อร่อยหรอกครับ
บางคู่ต่างคนต่างทำงานกลับมาเจอกันดันเอางานมาทำต่อที่บ้านอีกทั้งวันทั้งคืน เลยไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ อยู่ไปอยู่มามันก็เลยเป็นความเฉยชา รักหรือไม่รักไม่ต้องถามแต่ ต้องถามว่าเบื่อกันหรือยังจะดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก momypedia

12 ปัญหารัก ที่มักถูกถามหาทางออก

25_20110804221959ความรักมักเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่ประสบด้วยตัวเอง ส่วนคนที่ไม่เคยเจอกับตัว อาจจะคล้ายเป็นแค่เรื่องขี้ ผง แต่สำหรับ ดีเจอ้อย นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล นักจัดรายการ Club Friday เพื่อตอบปัญหาความรัก
ซึ่งเธอบอกว่า "จริง ๆ แล้วไม่มีใครแก้ปัญหารักให้ใครได้หรอก คนอื่นมีหน้าที่แค่คอยชี้ทาง แล้วให้คนสองคน ตัดสินเองทั้งนั้น"
1. รักคนมีเจ้าของ ความรักมันไม่อนุญาตให้คนมากกว่า 2 คน รักกันได้อย่างลงตัวหรอกนะ ต่อให้วันนี้เรารู้สึก ยอมได้ แต่ถ้าวันหนึ่งข้างหน้าในบางเวลาที่เราอ่อนแอ เราอยากให้เค้ามาอยู่ข้าง ๆ แล้วเค้าบอกเราว่า "กำลังอยู่กับ แฟน" คุณต้องถามตัวเองแล้วล่ะ...รับได้จริง ๆ หรือ?
2. รักเราสองคนไม่เท่ากัน ความรักของคนสองคนก็เหมือนนาฬิกาทราย วันใดที่ข้างใดข้างหนึ่งมาก มันก็จะ ค่อย ๆ น้อยลงไป และมักมีปัญหาที่ขึ้นต้นด้วย "ทำไม" อีกร้อยแปดวิธี แก้ปัญหาก็คือ อย่าไปฝัน ๆ เพ้อ ๆ ว่าเมื่อรักฉัน เธอต้องเป็นฝ่ายให้ฉันสิ ให้เอาความสุขของเราไปผูกให้เค้า เอาเวลาไปคิดทำเรื่องอื่นบ้าง
3. แอบรัก อาการแอบรักคือเราจะไม่คาดหวังอะไรมากมาย ตราบใดที่เรายังไม่ออกไปพูด เราไม่มีคำตอบ จากอีกฝ่าย มันเป็นอะไรที่เราจะไม่ทุกข์นะ
4. โสด คนโสดยุคนี้ไม่ค่อยทุกข์ระทมเท่าคนโสดยุคก่อน อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่เคยประสบหรือเคยรู้ ปัญหาของความรักมาแล้ว พอเป็นโสดก็เลยพยายามจะมองหาข้อดีของการโสดมาปลอบใจตัวเอง แต่จริง ๆ ปัญหาก็คือ "ความเหงา" เวลาเห็นคนอื่นเค้ามีความสุขก็อยากมีบ้าง
5. คนที่รักไม่ใช่ คนที่ใช่ไม่รัก คือบางคนไม่อยากโสดไง ใครผ่านมาก็คบ ๆ กันไป พอเจอคนที่ถูกใจจริง ๆ ก็ จะเกิดปัญหาขึ้นมา ฉะนั้น อย่าเลือกใครเพราะความเหงา เมื่อถึงเวลาที่ความรักมาหาเราเข้าจริง ๆ มันก็จะต้องมีคนเจ็บ ปวด
6. นอกใจ การนอกใจมันเหมือนยาเสพติด พอเวลาผ่านไปมันก็ลุกลามจนถอนตัวไม่ได้ หากเกิดปัญหาแบบนี้ หมายความว่าเขาไม่รักเรา เพราะถ้าเค้ารักเรา เค้าจะนอกใจทำให้เราเสียใจเหรอ เราจะทนต่อไปได้หรือ?
7. ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราสองคน คนสองคนรักกัน แต่มีปัญหาพ่อแม่ เพื่อนฝูงเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่ ต้องถามตัวเองคือ เรารักกันมากพอที่จะจูงมือกันข้ามอุปสรรคเหล่านี้ไปไหม
8. รักผู้ชายสุดท้ายได้เพื่อนสาว แต่เรื่องแบบนี้พี่ว่าขออย่างเดียวเลยคือ อย่าไปหลอกเค้า พอแต่งงานกันไป แล้วทำยังไงล่ะ สุดท้ายก็ต้องมีคนทุกข์ทรมาน
9. ความรักในเพศที่สาม คนที่อยู่ในเพศที่สามมักจะมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ไม่มีรักแท้ในหมู่เรา แต่คนที่ เขารักกันจริง ๆ สังคมยอมรับ และอยู่กันได้ถึงขั้นแต่งงานก็มีมากมาย ทุกคนมีสิทธิ์รักไม่ว่าจะเป็นเพศไหน
10. รักของคนที่ต่างกัน เช่น อายุต่างกัน ฐานะต่างกัน ต่างศาสนา ฯลฯ ไม่ว่าจะอะไรก็ต้องถามคนสองคน ว่า รักกันมากพอที่จะเดินก้ามข้ามสิ่งเหล่านี้ไปได้ไหม แต่ที่ต่างกันแล้วเลิกแน่ ๆ ก็คือต่างกันเรื่องของความรู้สึก ยังไง ๆ มันก็ไม่มีทางไปรอด ไม่ต้องไปฝืนให้เสียเวลา
11. รักระยะไกล มันต่างกับอีกประเภทนึงนะ ที่อยู่กับฉันทุกวันแต่รู้ตัวอีกทีก็มีมือที่ 3 ในชีวิตซะแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าเราจะห่างกันด้วยระยะทางไกลแค่ไหน ก็อย่าไปกลัว ขอแค่เราเป็นห่วงเป็นใย คอยติดต่อกัน และแสดงออกให้ อีกฝ่ายรับรู้ว่าเรายังรักไม่เคยเปลี่ยน
12. วิธีทำใจ ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาอะไร มันก็จะมาลงท้ายที่ตรงนี้ เพราะฉะนั้น อย่างที่พูดกันบ่อย ๆ นั่นแหละ เราต้องถามตัวเองว่ายังรักกันมากแค่ไหน ถ้าเรายังรักกันมาก ทางออกมันจะมาเอง ถ้าไม่ใช่ก็ต้องทำใจที่จะเดินจากไป เท่านั้นเอง
ที่มา http://www.thaiza.com

เนื้อคุ่อยู่ที่ไหน?

เนื้อคุ่อยู่ที่ไหน?
6ce41995b9970d6722a7234cb622b68f_1290427972
เนื้อคู่ คุณอาจจะเจอมันได้
แต่คู่ที่จะอยู่กับคุณในยามที่ทุกข์และสุข ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ
คนเราเกิดมาต้องพบเจออะไรตั้งมากมาย
ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ
หากวันนั้นฉันปล่อยตัวและใจไปตามอารมณ์
ฉันอาจสุขสมแค่เพียงข้ามคืน
แต่อาจทุกข์ระทมในวันต่อมา เพราะความละอายในใจที่ไม่
สามารถลบล้างไปได้ ฉันมีความสุขแบบนั้นได้หรือไม่ ?
เป็นคำถามที่มักเกิดขึ้นในใจเวลาที่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนั้น
คำตอบขึ้นอยู่กับความมั่นคงทางด้านจิตใจในเวลานั้น
ฉันว่ามีคนเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อย และใจอ่อนต่อคำหวานๆ
ใจคนเรานินะ ไม่ใช่ก้อนหิน ถึงได้ทนทานได้นานกว่าปกติ
จนถึงวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ “ฉันยังไม่มีใคร”
เพราะไม่เคยเจอคนที่พอดีกับฉันซักคน
บางคนมาผิดเวลา แต่ถูกใจ
บางคนมาถูกเวลา แต่ผิดใจ
บางคนถูกที่ ถูกเวลา แต่ปัญหาเยอะ
ฉันเลยกลายเป็นผู้หญิงเรื่องมากที่ยังคงเดินตามวิถีทางของตัวเอง
แบบเหงา ๆ และเซอ ๆ
คนที่เข้ามาถึงเป็นแค่เพื่อนร่วมเดินทางไปกับฉันในบางเวลา
เนื้อคู่ ไม่ใช่จะหาเจอกันได้ง่ายๆ เลยจิงๆ นะ
เขาคนนั้นเป็นใครฉันยังตามหาอยู่ และยังคงเชื่อใจตัวเอง
เชื่อใจสิ่งที่ใจคิดว่า “ใช่”

ผู้ชาย 4 ประเภทที่คุณสุภาพสตรีควรหลีกเลี่ยง

563033-topic-ix-0ลอง มาดูกันบ้างว่าผู้ชายประเภทใดที่สาวๆควรหลีกเลี่ยงในการหามาเป็นคู่ครอง (ถ้าหากไม่ขาดแคลนจริงๆ) หรือถ้าหลวมตัวคบหาดูใจไปแล้ว เพิ่งจะมารู้ทีหลัง เราก็มีเทคนิคการสลัดเขาออกไปจากชีวิตแบบนุ่มนวล (อาจฟังดูฮา แต่ได้ผลจริงๆ) มาบอกกันด้วยนะ เอ้า! ไปอ่านกันเลย……..

1. ลูกแหง่

ผู้ชาย ประเภทนี้ ถึงแม้ว่าอายุจะขึ้นเลขสี่แล้ว ก็ยังอาจจะอาศัยอยู่บ้านพ่อแม่ตัวเอง ให้พ่อแม่ซักผ้าให้ หุงหาอาหารให้ ที่สำคัญคือ ดูเหมือนว่าพ่อแม่ของเขา จะทะนุถนอมเขาเหมือนเป็นเด็กเล็กๆอยู่เสมอด้วยสิ

สาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง: มีดาราวัยรุ่นไทยหลายคู่แล้ว ที่เลิกกันเพราะฝ่ายชายเป็นลูกแหง่ เพราะมันเหมือนกับว่า ไม่ว่าคุณจะดีแค่ไหน เขา 2 คนแม่ลูก จะเห็นคุณเป็นส่วนเกินไปซะทุกเรื่อง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ต้องถามแม่ก่อนทุกครั้ง แล้วถ้าแม่ของเขาวิจารณ์คุณ เขาก็จะไม่กล้าเอ่ยปากปกป้องคุณด้วยซ้ำ! แล้วคุณก็จะกลายเป็นเหยื่อของคำวิจารณ์ของแม่เขาตลอดไป สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้แก่คุณมากทีเดียว เพราะฉะนั้น ถ้าคุณรักตัวเองพอ ก็ปล่อยเขาไปดีกว่า

วิธีสลัดเขาออกไป: แค่บอกเขาว่า ‘ชั้นไม่ชอบแม่ของคุณ!’……..แค่นี้ก็เรียบร้อย

2. เสือ

คง ไม่ต้องให้ยกตัวอย่างดาราคนใดให้เห็นภาพ เดี๋ยวจะเป็นการพาดพิงซะเปล่าๆ แต่อย่างที่เห็นๆกันอยู่ว่า ผู้ชายประเภทนี้ขาดความเสมอต้นเสมอปลายอย่างไร…แรกๆคุณจะได้รับการปรนนิบัติเยี่ยงเจ้าหญิง แต่ต่อมาไม่นาน คุณก็จะถูกเขี่ยทิ้ง ชนิดที่ว่าแค่หายใจก็ผิดแล้ว

สาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง: เขาช่างมาดเนี๊ยบดูดี…. ดูดีมากซะจนต่อไปคุณอาจต้องทนกับการเห็นเขาแอบไปรับโทรศัพท์ แอบส่งเมสเสจหากิ๊ก ส่งยิ้มให้เด็กเสิร์ฟ และจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของเขา ถึงตอนนั้นแล้วคุณจะรู้สึกเหงายิ่งกว่าตอนที่ไม่มีใครซะอีก!

วิธีสลัดเขาออกไป: แค่บอกเขาว่า ‘ชั้นไม่ได้ชอบผู้ชาย!’ ….เดี๋ยวเค้าก็คิดได้เอง

3. หัวหน้างานของคุณ

ไม่ ว่าเขาจะรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ แก่กว่าคุณ หรือแม้แต่เด็กกว่าคุณ คุณควรจะห้ามใจไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากภายหลัง ยิ่งถ้าเป็นบริษัทที่มั่นคงดีแล้วล่ะก็ คุณคงไม่อยากจะต้องแพ๊คกระเป๋าลาออกก่อนกำหนดใช่มั้ยล่ะ

สาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง: คุณจะไม่มีวันกล้าขัดใจเขาเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ?...เพราะ ถ้าเกิดทะเลาะกันขึ้นมา หรือคุณทำให้เขาอารมณ์บ่จอย เขาก็จะเที่ยวไปโพนทะนากับคนในออฟฟิศซิว่า คุณน่ะทอดกายให้เขา เพื่อจะขอแลกกับตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูงขึ้น หรือเพื่อขอให้เพิ่มเงินเดือน….เท่านี้คุณก็ไม่ต้องไปหาทนายที่ไหนมาสู้เลย มีแต่แพ้กับแพ้!

วิธีสลัดเขาออกไป: บอกเขาดักหน้าไปเลยว่า ‘มีผู้บริหารบางคนรู้เรื่องระหว่างคุณกับชั้นแล้วนะคะ!’…เขาจะกังวลจนรีบถอยกรูดไปเอง

559210-topic-ix-04. พวกติดเกมส์

เขาอาจจะไม่ติดพ่อติดแม่เหมือนประเภทแรก แต่กลายเป็นว่าเขาติดเพื่อนแทนน่ะสิ…พวก นี้หายใจเข้าออกเป็นการ์ตูนเป็นแฟนตาซีไปหมด ดังนั้นอย่าแปลกใจนะ ถ้าเขาจะบอกว่า เขาจีบคุณเพราะคุณหน้าเหมือนตัวละครใดตัวหนึ่งในเกมส์(ฮา)….อีกอย่างหนึ่ง คือ พวกนี้เค้าจะมีภาษาพูดของตัวเองในหมู่ Gamer ด้วยกัน ซึ่งอาจฟังดูแปลกๆ แล้วก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย เล่นเอาคุณปวดขมับได้ง่ายๆ

สาเหตุที่ควรหลีกเลี่ยง: คุณเคยเห็นผู้หญิงที่ไปนั่งรอแฟนเล่นเกมส์ตู้ตามห้าง หรือเกมส์ออนไลน์ตามร้านเน็ทมั้ย? หน้าตาพวกเธอเบื่อโลกและเซ็งเป็ดมากเลย….คุณเองก็คงไม่อยากเป็นแบบนั้นใช่มั้ย นอกจากว่าคุณจะบ้าเกมส์เหมือนกัน

วิธีสลัดเขาออกไป: สังเกตว่าเขาชอบเล่นเกมส์ช่วงเวลาไหน แล้วคุณก็แค่รบเร้า ขอให้เขาพาคุณไปเที่ยวในช่วงเวลานั้น

แน่ นอนว่า มีผู้ชายบางคน ที่จัดอยู่ในประเภทดังกล่าวทั้ง 4 ที่สามารถหาสาวๆมาเป็นคู่เดทได้ แต่ก็มักจะไปกันไม่รอด….และถึงจะมีประเภทที่คบกันได้นาน ก็เพียงเพราะว่าฝ่ายหญิงมีความอดทนสูง หรือไม่ก็ยอมสละความสุขส่วนตัวให้แก่เขาได้…..แต่ความจริงก็คือว่า คุณไม่จำเป็นต้องทนเลย ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าที่จะฝืนตัวเอง….ถ้าอะไรมันไม่เหมาะกับเรา หรือทำให้เราไม่มีความสุขล่ะก็ Just say NO! ไปเลย   by มาดามซากุระ

เรื่องของผู้ชายที่ผู้หญิงควรรู้(มั้ง)

561678-topic-ix-0คำนำประกอบการอ่าน :
1. โปรดอ่านคู่มือนี้ทุกครั้งก่อนเลือกสามี
2. ผู้ชาย (บางคน) อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โปรดระวัง
3. ผู้ชาย (แท้ๆ) มีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัด
มีอะไรบ้างที่ผู้ชายไม่อยากเจอะเจอในชีวิตเกี่ยวกับผู้หญิงของเขา
ผู้หญิงรู้ไว้ก็ดี เป็นการป้องกันไม่ให้เขาหมางเมินไปจากเรา
ลองดูซิว่าสิ่งที่ผู้ชายไม่ชอบมีอะไรบ้าง
1. ไม่ชอบให้ผู้หญิงมาออกคำสั่ง (ก็มันรู้สึกเสียเกียรติเสียหน้านี่นา)
2. ไม่ชอบผู้หญิงขี้บ่น จู้จี่จุกจิก (ก็มันน่ารำคาญ จะเป็นแฟนหรือเป็นแม่จ๊ะ)
3. ไม่ชอบให้ชายมาชำเลืองมองหรือพูดคุยกับผู้หญิงของเขา (หึงนี่ ช่วยไม่ได้เพราะรักหรอก)
4. ไม่ชอบให้ผู้หญิงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายจนเกินเหตุ (ให้เหลือไว้ให้เขาใช้บ้างนะถือว่าเมตตาเถอะ)
5. ไม่ชอบให้ผู้หญิงตบตีกัน (ก็กลัวตอนเข้าไปห้ามจะเจอลูกหลงนะซิ)
6. ไม่ชอบให้ผู้หญิงมายุ่งเรื่องของเขามากเกินขอบเขต (เขาก็อยากมีความลับบ้างนะซิ รู้หมดมันก็ไม่ลับซิจ๊ะ)
7. ไม่ชอบผู้หญิงใช้อารมณ์ (มันดูน่าเกลียด ไม่อยากให้เธอเป็นนางยักษ์นะซิ)
8. ไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้ามากจนเกินไป (ไม่ใช่เป็นโรคอะไรที่ใบหน้านะ)
9. ไม่ชอบผู้หญิงที่รู้ทันมากเกินไป (อย่างนี้ก็กระดุกกระดิกไปไหนไม่ได้เลยนะซิ)
10. ไม่ชอบที่ต้องตามง้อผู้หญิงมากจนเซ็ง (โต ๆ กันแล้วอย่างอนให้มากนะเลยนะที่รัก ถ้าผมไม่ได้ตามไปง้อไม่ได้หมายความว่าผมหมดรักนะจ๊ะ)
แล้วโดยปกติแล้วผู้ชายชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ สาว ๆ จะได้ทำตัวถูกไง
ลองมาดูซิว่ามีอะไรกันบ้างที่พระเอกของเราชอบ
559210-topic-ix-01. ชอบผู้หญิงที่ให้เกียรติตนโดยเฉพาะต่อหน้าผู้อื่น (รู้สึกได้หน้าที่ผู้หญิงอยู่ใน control)
2. ชอบผู้หญิงพูดจาหวาน ๆ ไพเราะ ยิ้มหวาน (รู้สึกเหมือนมีคนกำลังให้บริการไงจ๊ะ)
3. ชอบผู้หญิงที่สดชื่นสดใส ร่าเริง มีอารมณ์ขันบ้าง (รู้สึกหายเครียดที่โดนเจ้านายว่ามา)
4. ชอบผู้หญิงเอาอกเอาใจเก่งในทุกเรื่อง (เขาจะได้รู้สึกเหมือนอาเสี่ยไง)
5. ชอบผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจ อบอุ่น อยากอยู่ใกล้ ๆ (เป็นสิ่งที่เขาโหยหาตลอดเวลาแต่ไม่กล้าเปิดเผย)
6. ชอบผู้หญิงแกล้งโง่ แต่เก่ง มีความรู้ ความสามารถ (เขาจะได้รู้สึกมีความภูมิใจเหลืออยู่บ้างไง)
7. ชอบผู้หญิงงอนนิด ๆ (เขาจะได้ง้อได้ไง แต่อย่าให้ง้อบ่อยจนเขาเบื่อล่ะ)
8. ชอบผู้หญิงที่แต่งตัวดูเรียบร้อย แต่แฝงด้วยความเซ็กซี่ มีเสน่ห์และโรแมนติก (เพื่อนและคนใกล้ชิดได้อิจฉาไง)
9. ชอบผู้หญิงออเซาะเก่ง (คิดว่าเขาเป็นรัฐมนตรีต้องออเซาะโครงการถึงจะได้รับการอนุมัติ)
10. ชอบผู้หญิงไฟแรงสูง (พุ่งเป็นจรวดนำวิถีไงล่ะ ... ระวังไฟช็อตนะจ๊ะ) แต่ช้าแต่......
(เฉพาะผู้หญิง แต่ผู้ชายก็อ่านซะนะจะได้ซ้อนแผนผู้หญิงอีกชั้นนึง)
imagesCAW5ODTB1. ถ้าคุณคิดจะมัดใจชายด้วยเสน่ห์ปลายจวักเพียงอย่างเดียว คุณคิดผิดถนัด
2. อย่าไว้ใจผู้ชายที่ชอบคุยโอ้อวดว่า เขาเป็นพระราชาของครอบครัว ถ้าเขาโกหกเรื่องนี้ได้เรื่องอื่นก็ไม่น่าไว้วางใจ
3. ถ้าคุณอยากคบผู้ชายที่รู้จักเอาใจ จงหาแฟนไม่หล่อพวกนี้มีความพยายามสูง
4.หัวใจผู้ชายส่วนใหญ่เหมือนห้องขังในเรือนจำต่อให้มีสักกี่ห้องก็ไม่พอใส่นักโทษ
5. ได้แฟนเด็ก หรือแก่ก็เหมือนกัน เพราะพวกผู้ชายไม่ค่อยรู้จักโต
6. ระวังผู้ชายที่มีข้ออ้างทาลิปมันกับรองพื้นทุกครั้งและใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้านานกว่าคุณ
7. งานบ้านที่ไม่เคยสำเร็จ คืองานที่แม่บ้านออกปากให้สามีช่วย
8.หากคบกันไปนานๆคุณจะพบว่าผู้ชายส่วนใหญ่นิสัยเหมือนกันต่างกันก็เพียงใบหน้า แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณจำแฟนคุณได้
9.ผู้ชายมีนิสัยคล้ายแมว ชอบตักที่อบอุ่น รื้อข้าวของกระจุยกระจาย ดื้อเงียบและบางครั้งก็ย่องเข้ามาในห้องนอนตอนดึกๆ
10. เมื่อไรก็ตามที่คุณพบชายในอุดมคติ เข้ากันได้ ให้เกียรติผู้หญิง มีทุกอย่างพร้อมสำหรับร่วมชีวิตคู่คุณจะพบว่าเขามีภรรยาแล้ว
11. ผู้ชายเกลียดคำสองคำ “ อย่า “ และ “ หยุด “แต่พอใจเมื่อนำมาใช้ร่วมกัน
12. สามีก็เหมือนเด็กทารก จะดูน่ารักเป็นพิเศษถ้าไม่ใช่ลูกของเรา
13.การทำหน้าไร้เดียงสา ใช้ได้ผลเฉพาะก่อนแต่งงาน

ใช้หัวใจฟังผู้ชาย...เพื่อให้ความรักดีขึ้น

534569-topic-ix-0แม้ผู้หญิงจะมีความละเอียดอ่อนเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเข้าใจผู้ชายได้ดีพอ และอาจปฎิบัติต่อเขาผิดพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ลองนึกดูสิว่า เขาของคุณเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า

1. เกลียดการเป็นคนผิด
ถ้าเขาเลือกขับรถเข้าไปในทางที่ผิดโดยไม่ฟังคำค้านของคุณเลย ก็จงอย่าไปว่ากล่าวเขา เพราะผู้ชายน่ะเกลียดที่จะเป็นคนผิดโดยเฉพาะกับผู้หญิง การรู้เท่าทันปัญหา เป็นผู้สั่งการถือเป็นสิ่งที่เขาเชื่อมั่นมาโดยตลอด การตอกย้ำว่าเขาผิดไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เขาพอใจที่จะถูกเสมอและมองข้ามความผิดของเขาไป

สิ่งที่ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า "คุณก็เป็นอย่างนี้ รู้ว่ามาผิดทางก็ยังดันทุรัง"

ให้พูดว่า "คุณน่าจะลองถามทางคนแถวนี้ดูนะ ปกติคุณรู้เส้นทางดี แต่แถวนี้มันวกวนไปหน่อย"

2. เกลียดผู้หญิงหงุดหงิด เจ้าอารมณ์
ไม่มีใครชอบการเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ ยิ่งผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ การที่ผู้หญิงระดมพายุอารมณ์ใส่เขาย่อมเป็นการท้าทายความมั่นคงของเขา หากเขาเฉยเมยไม่ตอบโต้ก็กลัวจะเป็นฝ่ายอ่อนแอ เพราะฉะนั้นอย่าผลักเขาเข้าไปในมุมอับ ผู้ชายไม่รู้อะไรทุกเรื่อง ถ้าคุณเซ็ง หงุดหงิด ก็จงบอกเขาไปตามตรงว่าต้องการอะไรจากเขา

สิ่งที่ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า "พอกันที ฉันเบื่อความซื่อบื้อของคุณเต็มทีแล้ว"

ให้พูดว่า "คุณรู้ไหม ที่คุณลืมวันเกิดฉัน ฉันเสียใจมากจริงๆ" (ถอนหายใจยาวๆ ก่อนพูด 3 ครั้ง)

3. เกลียดผู้หญิงทำตัวเป็นแม่
ทำเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กทีต้องคอยคำชี้แนะตักเตือน ผู้หญิงเติบโตมาโดยมีภาพแม่เป็นแบบอย่าง เก็บความเป็นแม่ไว้ใช้กับลูกเท่านั้นเถิด ผู้ชายอาจต้องการคำแนะนำดีๆบ้างแต่ไม่ใช่การสอนและปกครอง เขารู้สึกว่าไม่มีความสามารถและหมดคุณค่าในตัวเอง

สิ่งที่ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า "คุณโทรไปบอกเพื่อนคุณสิว่าไม่สบายไปไม่ได้"

ให้พูดว่า "ที่รัก ฉันเป็นห่วงคุณจัง ท่าทางคุณอยากพักผ่อนมากกว่า"

เก็บมาฝาก 5 เคล็ดลับใช้หัวใจฟังผู้ชาย

คุณผู้หญิงทั้งหลายครับ จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายของคุณเขาคิด รู้สึกและต้องการอะไร ถ้าเราตัวแต่ใช้หูเงี่ยแต่ไม่ใช้ใจฟัง เทคนิคง่ายๆ นี้อาจช่วยให้คุณผู้หญิงถึงบางอ้อก็ได้


1. อย่าขัดคอ
รู้ไหม ผู้ชายมีความระมัดระวังและความพยายามในการพูดอย่างมาก แต่ถ้าถูกขัดคอเขาจะติดขัดไปไม่ถึงจุดหมายที่เขาต้องการเสียที ผู้หญิงเราอาจจะละเอียดละออไปหน่อยเลยมีข้อโต้แย้งตลอด ดังนั้นอดทนให้เขาไปถึงจุดหมายก่อน ค่อยแสดงความคิดเห็นจะดีกว่า

2. ฟังให้จบ อย่าเพิ่งคิดแทน
ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบเดานั่นเดานี่ระหว่างผู้ชายจึงเข้าใจไขว้เขว เช่นเขาพูดว่า "ผมอยากได้รถยนต์มือหนึ่ง มันดีจริงๆนะ" คุณอาจตีความว่า "กำลังจะขอฉันใช้เงินก้อนโตล่ะสิ" ทั้งที่เขาอาจหมายถึง "มันประหยัดน้ำมันและไม่เสียจุกจิก คิดแล้วคุ้มกว่ารถกระป๋องคันเดิมตั้งเยอะ" ก็ได้

3. ให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจเขา
บางอย่างฟังแล้วไม่เห็นด้วย แต่ไม่สำคัญเท่ากับทำให้เขาเห็นว่าคุณเข้าใจในเหตุผลที่เขาอธิบาย เห็นด้วยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

4. สัมผัสเขาขณะที่ฟัง
การจับมือ นั่งใกล้ๆ หรือวางมือบนแขนเขา ช่วยให้เขารู้สึกใกล้ชิดและอุ่นใจมากขึ้น ใช้ได้ผลดีมากตอนทีอยากให้เขาคลายความในใจ

5. อย่าคาดหวังให้เขาพรั่งพรูอารมณ์
อย่างที่บอกว่าเขาถูกสอนมาให้เก็บความรู้สึก มิเช่นนั้นจะมิใช่ "ผู้ชาย" ดังนั้นถ้าเขาพูดว่า "ผมก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้หรอก" นั่นก็หมายความว่า "ผมเสียใจ" แล้วล่ะ

เราหวังว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เก็บเอามาฝากกัน คงช่วยให้สาวๆ ในบอร์ด 34 แห่งนี้เก็บเทคนิคเหล่านี้ไปคิดบ้าง...อย่างน้อย...ก็จะช่วยให้ "ความรัก" ของพวกคุณ...ดูดีขึ้น...

เป็นห่วงครับผม...

ความรักโรแมนติก สร้างได้! ด้วยตัวคุณเอง

563033-topic-ix-0คบกันเป็นแฟน ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็ต้องมีความโรแมนติก เข้ามาขับเคลื่อนความรักกันบ้าง หากคุณกำลังรู้สึกว่าต้องการความโรแมนติกเข้ามาเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งของชีวิต สูดหายใจเข้า-ออกช้าๆ บิดขี้เกียจหนึ่งครั้ง แล้วเริ่มลงมือได้เลย!
1. หยุดความซ้ำซาก-จำเจ
การคบกันในช่วงแรกระหว่างคนสองคน ทุกสิ่งยังคงเป็นสิ่งใหม่ จึงมีทั้งเรื่องที่น่าสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ละฝ่ายมักจะคอยคาดหวังว่า “พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นนะ” “สัปดาห์หน้าล่ะ” “อืม... แล้วเดือนหน้าล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นน้า” “คืนนี้ เธอจะโทรมาหรือเปล่า” “เอ... เขาจะมาหาฉันหรือเปล่านะ” แต่พอผ่านพ้นเวลาในช่วงแรกไปสักระยะหนึ่ง ความรู้สึกๆ ใหม่ๆ ความรู้สึกตื่นเต้นก็กลับกลายเป็นความรู้สึกปกติในชีวิตประจำวัน..
วิธีที่จะสามารถช่วยความโรแมนติกให้เกิดขึ้นได้ ก็คือ
พยายามหาสิ่งใหม่ๆ ทำเพื่อสร้างความรู้สึกตื่นเต้นให้กลับขึ้นมาอีก เช่นไปเที่ยวที่ใหม่ๆ หากิจกรรมใหม่ๆ ทำ หรือทำอะไรที่เซอร์ไพรซ์บ้าง ความรู้สึกโรแมนติกก็จะกลับคืนมาอีกครั้ง
2. ทำเหมือนกับว่า คุณกำลังจะไปออกเดทเป็นครั้งแรก
สมมุติลองทำเป็นว่า คุณเพิ่งจะรู้จักเขาหรือเธอเป็นครั้งแรก และคุณกำลังจะทำให้เขาหรือเธอคนนั้นมาชอบคุณให้ได้ คุณจะทำอะไรดี ? ซื้อดอกไม้ และมอบให้... ส่งข้อความน่ารักๆ ไปที่โทรศัพท์มือถือ สมมุติอีกครั้งสมมุติว่าเขาหรือเธอยังโสด และคุณจะหาวิธีที่จะทำให้คนพิเศษคนนี้ หันมาชอบหรือรักคุณ คุณจะทำอะไรดี? ซื้อขนมอร่อยๆ ไปฝากเธอดีมั้ย ซื้อน้ำหอมกลิ่นใหม่ให้เขาก็น่าจะเข้าท่า..
ยังจำเดทแรกของคุณได้ไหม
หากเดทแรก เป็นเดทที่สร้างความรู้สึกดีให้กับคุณ ลองกลับไปหาความรู้สึกนั้นอีกสักครั้ง

559210-topic-ix-0
3. ค้นหาทางที่เหมาะสมระหว่างคุณและคนรักของคุณ
คำว่า “โรแมนติก“ อาจไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว บางคนชอบการให้หรือรับดอกกุหลาบ บางท่านชอบดินเนอร์ใต้แสงเทียนในบรรยากาศริมทะเล
ลองสังเกตดูว่า คนรักของคุณสนใจสิ่งไหน ทำอาหาร? เลี้ยงสัตว์? จัดสวน? แต่งบ้าน? อาจจะมีสักสิ่งหนึ่งที่คุณและคนรักชอบเหมือนกัน และสามารถทำร่วมกันได้ดี แต่ถ้าหากไม่มีเรื่องที่สนใจใกล้เคียงกัน ก็ลองสละเวลาบางส่วนไปให้กับกิจกรรมที่คนรักของคุณสนใจดูบ้าง.. สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ จะช่วยสร้างความผูกพันที่พิเศษได้มาก
4. โรแมนติกจากการทำสิ่งเล็กๆ น้อย
จับเข่าคุยกัน ถกเถียงปัญหากันและช่วยกันแก้ไขปัญหา รับฟังเรื่องทุกข์ร้อนใจของแต่ละฝ่าย แสดงความเป็นห่วงเป็นใยดูแลสารทุกข์สุขดิบ เมื่อคำนึงว่าความรักที่ดีคือการแชร์ชีวิตคู่และอยู่ด้วยกัน ด้วยความรู้สึกเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็จะเป็นพื้นฐานที่ดีที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิดสนิทสนมกัน และเป็นความโรแมนติกที่อยู่ได้ยาวนาน
5. ความจริงใจ... เป็นคำตอบสุดท้าย
ถ้ารักจริง รักจัง บอกกับเขาหรือเธอว่าคุณรู้สึกเป็นเช่นไรที่ได้คบกัน คุณอาจจะเคยอยากบอกกับคนรักว่า คุณรู้สึกดีมากแค่ไหนที่มีเขาหรือเธอเข้ามาอยู่ในชีวิต บอกความรู้สึกของคุณให้คนรักได้รับรู้ บางครั้งการพูดตรงๆ ก็ดีกว่าการรอที่จะให้คนรักเข้าใจได้ด้วยตัวเอง
ไม่ว่าจะเพิ่งคบกันหรือคบกันมานานแล้ว หากในใจคุณเต็มไปด้วยรักแล้วล่ะก็ บอกให้เขาหรือเธอให้รับทราบซะโดยดี

17 ประโยคปวดใจก่อนจากกัน


1."เราต่างกันเกินไป"
(แหม!!!ประโยคนี้อยากถามกลับว่าแล้ว...มาจากดาวไหนล่ะ?)
2."เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก"
(แล้วไมเมื่อก่อนไปด้วยกันมาได้ตั้งนานสองนาน......ถึงเวลานี้ไปด้วยกันไม่ได้แล้วซะงั้น)
3." ยังมีคนอื่นที่ดีกว่าฉันนะ"
(เป้นคนดีมาตั้งนมตั้งนาน.......มาถึงตอนนี้...อยากเป็นคนเลวเอาดื้อๆเลยนะ)
4."เธอยังไม่ใช่"
(แต่ก่อนหน้านี้...บอกว่ากรูใช่ที่สุด....กรูจำได้)
5."เธอไม่ใช่คนนั้น"
(อืม....แต่เมื่อก่อนกรูเคยเปนคนนั้นนะ....)
6."ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะ"
(ไม่ต้องก้อได้.....แค่เอาทุกสิ่งทุกอย่างมาคืนกรูก้อพอ)


7."ฉันอยากมีพี่ชาย(น้องสาว)"

(แต่กรูไม่ได้อยากได้พี่ชาย/น้องสาว)
8." ฉันชอบเธอแบบพี่ชาย(น้องสาว) มากกว่า"
(งั้นกรูคงเป็นน้องสาว/พี่ชายคนที่ 8 ,9,10 ฯลฯของ...)
9."มันสายไปแล้วล่ะ"
(กรูว่ามันบ่ายแล้ว)
10."เราจบกันแค่นี้นะ"
(อ้าว! แค่นี้แค่ไหนวะ)
11."เธอเป็นคนดีเกินไป"
(คือ....จะบอกกรูว่า ...ชอบคนเลวว่างั้นเถอะ ด้ายยยเชิญ..)
12."เธอก็น่าจะรู้"
(แล้วกรูจารู้ม้ายยย กรูไม่ได้มีพลังจิตอ่านใจคนได้นี่)
13." เธอไม่เข้าใจฉัน"
(ไหนเมื่อก่อนบอกกรูเปนคนที่เข้าใจ...ที่สุดไง)
14."เราเป็นแค่เพื่อนกันดีกว่านะ"
(เพื่อนมีเยอะแล้ว.....เพื่อนมีเยอะแล้วโว๊ย)
15."เธอตัดใจซะเถอะ"
(ตัดใจ....แม่งทำง่ายๆก้อดีสิ T_T)
16."เราเหมือนเส้นขนานกันนะ"
(เส้นขนานอย่างน้อยก็ไปด้วยกันได้)
17."นึกถึงความจริงบ้างซิ"
(แล้วนี่กรูฝันอยู่หรือไง)

เพื่อนกัน..ฉันรักเธอ

เพื่อน..มาจากไหนไม่สำคัญ

เพื่อน..ถึงต่างกันใช่ปัญหา

เพื่อน..ถึงไม่ค่อยมีเวลา

เพื่อน..ถึงห่างตาก็ห่วงใย

เพื่อน..คือเข้าใจความเป็นเพื่อน

เพื่อน..แม้นานเดือนไม่หวั่นไหว

เพื่อน..คือสัมพันธ์ทางสายใจ

เพื่อน..แม้ห่างไกลใจเท่าเดิม

เพื่อน..คือส่วนหนึ่งของชีวิต

เพื่อน..ยังผูกจิตแม้ห่างเหิน

เพื่อน..ยังคอยดูหนทางเดิน

เพื่อน..พร้อมเผชิญและฝ่าไป

เพื่อน..จะอยู่ข้างยามเธอทุกข์

เพื่อน..เวลาสุขก็อยู่ใกล้

เพื่อน..ไม่ทิ้งเธอเวลาใด

เพื่อน..คือสายใยความผูกพัน

เพื่อน..แม้จากกันในวันนี้

เพื่อน..จงโชคดีต่อความฝัน

เพื่อน..ขออย่าทิ้งสายใยกัน

เพื่อน..ห่างคืนวันอย่าห่างใจ

เพื่อน..กว่าจะได้มาเป็นเพื่อน

เพื่อน..ผ่านวันเดือนมาแค่ไหน

เพื่อน..ผ่านทุกข์สุขมาเท่าใด

เพื่อน..เหนื่อยล้าใจแค่ไหนกัน

เพื่อน..ยังคงดูอยู่ตรงนี้

เพื่อน..จะคงที่ไม่แปรผัน

เพื่อน..จะรักมั่นทุกคืนวัน

เพื่อน ..ไม่ทิ้งกันให้สัญญา

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

♥ ♥ ♥ 50 นิยามของความรักในเเต่ละอารมณ์ของคน ♥ ♥ ♥

1.ความรักคือ โชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
2.ความรักเป็นได้ทั้งมือเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ

3.ความรักคือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างนึง
4.ความรักคือ ความหวัง กำลังใจ เเละศรัทธาในกันเเละกัน

5.ความรัก มีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข
เเต่มีความสุขในสิ่งที่เรารักต่างหาก
6.ความรักคือ ศิลปะ ที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
7.ความรักคือ โอกาส ที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง

8.ความรักคือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ ทำให้คนโง่กลายเป็นคนฉลาด
9.ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก

10.ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไปพร้อมๆกัน
11.ความรักทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต

12.ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิต
เพราะทุกคืนที่ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว

13.ความรักคือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
14.ความรักที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที

15.ความรักจะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีที่รัก
16.ความรักกว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากอย่าให้มันจบสิ้นเพียววันเดียว

17.ความรักสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่าที่กำลังคุโชน
18.ความรักต่อให้บอกกันทุกวันว่ารักก็ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก
เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป

19.ความรักถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
20.ความรักสามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อยไขว่ากี่ครั้ง

21.ความรักรักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
22.ความรักอยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามคำพยากรณ์ได้

23.ความรักคือสิ่งแปลกใหม่ที่จะทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยนไปจากเดิม
24.ความรักทำให้คุณอยู่นิ่งๆเงียบๆได้นานกว่าเดิม

25.ความรักคือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟในหัวใจ
26.ความรักคือการเริ่มคิดเป้าหมายเเห่งชีวิต

27.ความรักคือการร่วมฝัน ร่วมปันใจเเละก้าวไปในชีวิต
28.ความรักคือการอยู่เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะตกต่ำเพียงใด

29.ความรักไม่ว่าจะเป็นเเบบไหนยังไงมันก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
30.ความรักเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสไได้ด้วยหัวใจ

31.ความรักทำให้วันเลวร้ายไม่เป็นวันเลวร้ายที่สุด
32.ความรักทำให้วันที่เเสนเศร้ากลายเป็นวันที่สุขที่สุดได้

33.ความรักเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถจะหาได้ง่ายตามท้องถนน
34.ความรักทำให้อะไรดีงามได้เสมอ

35.ความรักที่รีบร้อนมักจะพบกับจุดสิ้นสุดได้รวดเร็วเสมอ
36.ความรักคือสิ่งที่เเม้จะทำความเจ็บปวดให้เเต่ก็ไม่มีใครที่กลัวหรือเกลียดชังความรัก

37.ความรักไม่ได้จบลงเเค่การเเต่งงานหรือมีSEXเท่านั้น
38.ความรักคือสิ่งที่คุณจะพบได้เองโดยมิต้องเเสวงหา

39.ความรักคือสิ่งที่ยืนยาวกว่าชีวิตคนคนนึง
40.ความรักส่วนมากมักจะเติบโตมาจากความเป็นเพื่อนเเละมักจะยืนยาวเสมอ

41.ความรักในยามเเรกรักคือช่วงเวลาของรักที่หวานหอมมากที่สุด
42.ความรักครั้งเเรกเเละครั้งสุดท้ายมักจะเป็นรักในตนเอง

43.ความรักทำให้คนกลายเป็นกวี
44.ความรักไม่ใช่การมองตากันเเต่เป็นการมองไปในทิศทางเดียวกัน

45.ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่มีคำว่าสายไป
46.ความรักคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ

47.ความรักทำให้ทุกอย่างสว่างเเละสดใส
48.ความรักคือการพึงพอใจในสิ่งที่รัก

49.ความรักจะมีคุณค่าได้ต่อเมื่อคนที่รักต้องให้เกียรติ์ซึ้งกันเเละกัน
50.ความรักบางทีก็เป็นสะพานทอดไปสู่การแต่งงาน

แนะนำตัว


การศึกษา :BA.MA.ปรัชญาตะวันออกและตะวันตก

ถ้าขอพรได้ 3 ข้อ อยากจะขออะไร : ขออย่าได้พบคนโกหก

สารพัดช่างสำหรับความรัก

คน แต่ละคนมีบุคลิก ทัศนคติที่แตกต่างกันไป อารมณ์คนเราก็มีขึ้นๆลงๆตามสภาพปัญหา ตามแต่สถานการณ์จะพาไป บางคนโชคดี เข้าใจธรรมชาติของชีวิต ก็จะประคับประคองชีวิตให้ไม่ทุกข์มากนัก และสำหรับความรักแล้วมีไอเดียเกี่ยวกับการทำตัวเป็น”ช่าง”หลายๆแบบมานำเสนอ เพื่อที่จะทำให้ความรัก ความสัมพันธ์ของสองเรา มันราบรื่น และนุ่มนวล
  สิ่งที่ไม่ควรเป็น  



ช่างสืบช่างค้น เป็นช่างที่มาจากหน่วยสืบราชการลับ ตรวจทุกอย่าง เช็คทุกเรื่อง มือถือ อีเมล์ ดมกลิ่นเสื้อผ้า ช่างแบบนี้นอกจากเจ้าตัวจะไม่มีความสุขกับการกระทำของตัวเองที่ต้องมานั่ง คอยระแวงอยู่ตลอดเวลา ฝ่ายที่เป็นจำเลยโดนบ่อยๆเข้าก็อาจจะทนไม่ได้เหมือนกัน
ช่างซักช่างถาม ถามซะอย่างกะสอบปากคำผู้ต้องหาไม่ว่าจะเป็น ไปไหน ทำอะไร อยู่กับใคร เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติกับอีกฝ่าย แล้วยังเป็นสาเหตุของการทำให้คุณทะเลาะกันอีกต่างหาก
ช่างวิตกกังวล ช่างแบบนี้ในความรักคือ ช่างที่คิดไปเองตลอดเวลาว่าแฟนจะนอกใจ แฟนจะมีคนอื่น ตีโพยตีพายตีอกชกลมไปตามเรื่อง หรือคิดไปเองว่าแฟนจะไม่รัก แฟนหมดรักแล้ว เป็นช่างที่ไม่มีความสุข แถมยังทุกข์ตลอดเวลาอีกต่างหาก
ช่างบ่น การพูดเรื่องเดิมๆมากกว่าหนึ่งครั้งถือว่าเป็นการบ่น ไม่มีใครชอบคนขี้บ่น นอกจากคนบ่นเองจะเหนื่อยแล้ว แถมคนฟังยังหงุดหงิดอีกต่างหาก
  สิ่งที่ควรเป็น   
ช่างประจบประแจง การจะเป็นช่างแบบนี้ต้องใช้ฝีมือและทักษะขั้นสูง มากไปจะดูไม่จริงใจและดูเป็นพวกคาดหวังผลประโยชน์จากอีกฝ่าย ทำแต่พอดีๆก็เป็นการเติมความน่ารักน่าชังให้กับตัวคุณเอง แหมก็เช่นเวลาที่เขาเล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟัง คุณก็อาจจะชมเขาว่าเขาเก่ง ความคิดเขาดี (ถ้าความคิดเขาดีจริงๆ) ก็ควรจะชมออกมาให้มันออกหน้าออกตา เขาเองก็จะภูมิใจ
ช่างเอาอกเอาใจ คนเราทุกคนชอบคนเอาอกเอาใจ นอกจากจะทำให้คนรักของคุณมีความสุขแล้ว ถ้าคุณทำด้วยใจและคุณเห็นว่าคนรักของคุณรู้สึกดีกับสิ่งที่คุณทำแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องที่เยี่ยมไปเลยใช่ไหมครับ เช่นแฟนเหนื่อยกลับมาบ้าน หาน้ำ ให้ดื่ม หรือไม่ก็ถามว่าหิวไหม หาข้าวหาปลาให้กิน พอแฟนนั่ง ถ้าเราว่างอาจจะเดินไปบีบนวนไหล่ให้คลายเครียดได้ อะไรประมาณนี้
ช่างมัน เป็นวิชาช่างชั้นสูง เป็นการผสมสองศาสตร์เข้าด้วยกัน นั่นคือ การให้อภัย ความอดทน ซึ่งช่างมันนี้จะเป็นช่างที่มีประโยชน์มากในการใช้ชีวิตคู่ ถ้าคุณสามารถเป็นช่างมันได้แล้ว เรื่องเล็กๆน้อยๆ หรือว่าเรื่องจุกจิกกวนใจที่เป็นปัญหา คุณจะสามารถมองข้ามมันไปได้ ไม่เก็บมาคิดให้รกหัว ไม่ต้องมานั่งกังวลใจ ถือคติว่ามองแต่เรื่องดีของเขา เรื่องไม่ดีก็ให้อภัย คิดทำไมรกหัวเรียกว่ามีความสุขกันทั้งสองฝ่าย

ความรักจะไม่ทำร้ายเรา ถ้าเราไม่ทำร้ายตัวเอง

การลืมคนที่เรารักมาก ที่สุด   อาจดูยากเย็นเกินทำใจ 
แต่การเอาชนะใจตัวเองให้ได้ 
ยาก เย็นกว่า...แต่ต้องทำ 
แม้คนเคยรักเคยผูกพันกันมา 
จะยังมี เยื่อใยบาง ๆ หลงเหลืออยู่ 
แม้ภาพเก่า ๆ ที่เคยหวานชื่น 
จะตามหลอก หลอนให้เราปวดใจอยู่เรื่อย ๆ 
แต่เราจะยอมปล่อยให้สายใยบาง ๆ เส้นนั้น 
มา รัดคอจนตายทั้งเป็นเลยเชียวหรือ 
แม้ว่าหัวใจจะ เป็นก้อนเนื้อที่มีความรู้สึกรู้สาก็เถอะ 
แต่ถ้าตราบใดหัวใจยังคงอยู่ใน ร่างกายเรา 
ยังเต้นเป็นจังหวะ 
และยังเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวที่ช่วยทำ ให้เรามีชีวิตอยู่ 
การเก็บรักษาก้อนเนื้อที่มีความรู้สึกรู้สานั้นไว้ 
ยัง ดีเสียกว่าปล่อยให้แหลกคามือคนไม่รักดี 
อย่ามัวแต่คิดว่าเขาคือที่ สุดของชีวิต 
และต่อจากนี้ไปจะไม่รักใครอีกแล้ว 
แม้เรื่องราวความรัก 
จะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ตัวละครสองตัวต่างแยกทางกันเดิน 
แต่ก็ใช่ ว่าเราจะเดินทางเพียงคนเดียวลำพังไม่ได้ 
เรายังสามารถพบเจอและมอบหัวใจ ให้ใครได้อีก 
เรายังลืมตาอ้าปากได้สบาย 
ไม่จำเป็นว่าเราจะต้อง เอาชีวิตอันแสนมีค่า 
ไปผูกติดอยู่กับเขา 
ไม่อยากลืมเขา ก็ไม่ต้องลืม 
เก็บเขาไว้เป็นความทรงจำที่ดี 
แต่ถ้าการที่ไม่สามารถ ลืมเขา 
แล้วกลายเป็นบ่วงที่คอยติดตามหลอกหลอนเราไปทุกที่ 
ลืมเขาให้ หมดจากใจเสียเถอะ 

เขาเป็น เทวดาหรือก็เปล่า 
ทำไมเราถึงยังไม่กระชากชีวิตเขาออกไปจากใจเสียที 
ลอง นึกดูสิว่าป่านนี้เขากำลังทำอะไร 
เขากำลังหยิบรูปเราขึ้นมากอดแนบอก 
ด้วย ความพิศวาสอย่างนั้นหรือ 
เขาอาจจะกำลังอยู่กับใครที่ไหนสักแห่งหนึ่งก็ เป็นได้ 
เขามีสิทธิ์ทำอะไรที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ 
ทำโดยไม่จำเป็น ต้องบอกเรา ไม่จำเป็นต้องมีเรา 
ไม่เห็นต้องเสียเวลาอันมีค่ามานั่งคิด ถึงเรา 
ซึ่งก็เป็นแค่คนในอดีต 
ความจริงแล้วเป็นเพราะเรายังงมงาย 
เพราะเรายังไม่อยากลืมเขา ต่างหาก 
อย่าปล่อยให้โลกหมุนเอาตัวเรา 
ไปติดอยู่กับเรื่องราวในอดีต เลยดีกว่า 
ลุกขึ้นมาหมุนโลกด้วยมือของเราเองเถอะ 
ทุกอย่างในตอนนี้ ขึ้นอยู่ที่เราเพียงคนเดียวเท่านั้น 
เราหมุนโลกให้ไปทางซ้าย มันก็จะไปทางซ้าย 
เราหมุนให้ไปทางขวา มันก็จะไปทางขวา 
ขอเพียงแค่ เราอย่าหมุนให้มันกลับไปทางเดิมทางนั้นเป็นใช้ได้ 

เก็บทุก สิ่งทุกอย่างที่เป็นเขาให้กลายเป็นอดีต 
เป็นความทรงจำเก่า ๆ ที่ไม่ควรเอามาฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า 
การที่เรายังงมงายคิดถึงเขา 
จะทำ ให้เราไม่สามารถก้าวขาเดินไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ 
ถ้ายังไม่ยอมลืมตา ตื่นขึ้นมาดูว่าอะไรคือความจริง 
อะไรคือภาพลวง อะไรคือความฝัน 
บอก ได้เลยว่า 
เรากำลังจะก้าวพลาด step ชีวิตที่สูงขึ้นไปอีกขั้น 
ที่ ตรงนั้นอาจมีอะไรดีๆ รอเราอยู่ 
ขอแค่เรากล้าหาญที่จะเดินเข้าไปหา 
และ ไม่พกพาเอาเรื่องเก่า ๆ ติดตัวไปด้วย 
ถ้าเราทำได้ 
ก็ถือได้ว่า เรากำลังยกระดับจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น 
เมื่อไรที่เราได้ไปยืนอยู่ตรงจุด ที่มันสูงขึ้นกว่าเมื่อวาน 
พรุ่งนี้ก็ย่อมที่จะยืนอยู่สูงกว่าวันนี้ 
อย่า ร้องไห้คร่ำครวญฟูมฟายเพื่อใครคนหนึ่ง 
ที่ได้เดินออกไปจากชีวิตต่อไปอีก เลย 
มีส่วนได้ส่วนเสียกับเราหรือ ก็ไม่ 
จำไว้ให้ขึ้นใจว่า 
เขา คนนั้นก็เป็นได้แค่คนเคยรักที่ได้ตายจากไป 
เราเองต่างหากที่ยังมีลม หายใจ 
และยังมีชีวิตอยู่

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ผู้หญิงแบบไหน ที่ผู้ชาย อยากได้เป็นเจ้าสาว

559210-topic-ix-0

ผู้หญิงที่น่าไว้วางใจ

      ผู้ชายไม่ว่าสไตล์ไหน ก็ยังคงต้องการความไว้วางใจจากผู้หญิงทั้งนั้น เขาอยากที่จะมั่นใจว่าคุณจะไม่ทิ้งๆ ขว้างๆ เขาเหมือนกับเขาเป็นกระดาษทิชชู หรือว่าคุณจะไม่เฟลิตใส่ญาติพี่น้องของเขา พูดง่ายๆ ทำตัวให้เขาไว้ใจคุณ
ผู้หญิงแบบเพื่อนกัน 

      เค้าน่ะไม่อยากได้แม่อีกคนหรอกนะ หรือว่าไม่อยากได้ประเภทอินโนเซนท์ทำอะไรไม่เป็น หรือว่าไม่มีหัวคิดเป็นของตัวเองผู้ชายก็เหมือนผู้หญิงนั่นแหละ เขาอยากจะมองหาคนที่เข้าใจ ไว้ใจ เชื่อใจได้ ปรึกษาได้ทุกเรื่อง หรือเป็นเพื่อนคุยคอยรับฟังปัญหา แบ่งปันรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่น้ำตา ทุกเวลากับคนที่จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
  มีความเป็นเรา

      คือมีความเชื่อและค่านิยมพื้นฐานที่คล้ายๆ กันไงแต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกๆ อย่าง ความรู้สึกที่เป็นทีมเวิร์คที่ดี จะทำให้คนสองคนมีความผูกพันกันมากขึ้น เช่น ค่านิยมพื้นฐานเรื่องเวลา เงิน หรือแม้กระทั่งศาสนา และความสำคัญของครอบครัว
ผู้หญิงที่มีความสนใจอะไรคล้ายๆ กัน
      ผู้ชายจะตื่นเต้น ที่ได้พบผู้หญิงที่ให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เธอทำ และผู้หญิงก็เช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่แอคทีฟ และสนุกในกิจกรรมเดียวกับที่ผู้ชายทำ ไม่ว่าจะเป็นชอบเล่นกีฬา หรือว่าเล่นเกมส์ เคาน์เตอร์สไตรค์ ฯลฯ ผู้หญิงที่น่าสนใจจะเป็นคนที่ดึงผู้ชายให้ไปลองอะไรใหม่ๆ ที่เขาอาจจะไม่ชอบโดยธรรมชาติ แต่หลังจากนั้น เขาจะค้นพบว่าเขาก็สนุกเหมือนกัน ที่ได้ลองทำอะไรแปลกออกไป
ผู้หญิงที่มีอารมณ์ขัน 559210-topic-ix-0

      ไม่มีใครอยากอยู่กับผู้หญิงที่หน้าบึ้ง หรือว่าไม่มีอารมณ์ขันเอาเสียเลยเสียงหัวเราะที่สดใส ไร้จริต เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ชายหลงมานักต่อนักแล้ว คุณรู้สึกบ้างหรือเปล่าเวลาที่คุณหัวเราะกับใครซักคน คุณจะรู้สึกเป็นกันเองกับคนๆ นั้นทันที อารมณ์ขันช่วยสร้างความใกล้ชิดและความอบอุ่น แถมยังไล่ตะเพิดความเครียดอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นคำพูดที่ว่า ยิ้มวันละนิด จิตแจ่มใส ก็ยังใช้ได้ดีอยู่
ผู้หญิงฉลาดเท่านั้นที่ผู้ชายต้องการ
      บางคนบอกว่าผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่ฉลาดและเก่งกว่าตน ไม่จริงหรอกค่ะ ผู้ชายสมัยนี้นิยมผู้หญิงที่ฉลาด มีไหวพริบ มีความคิดความอ่าน แต่ต้องฉลาดให้ถูกที่ ไม่ใช่ทำเบ่งอวดฉลาดต่อหน้าคนอื่น แล้วทำให้ผู้ชายคนนั้นต้องอับอาย อย่างนั้นไม่ฉลาดจริงหรอก
เรื่องเซ็กส์
      ต้องยอมรับกันว่าอารมณ์แบบนี้มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน แต่ว่าเซ็กส์ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดหรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นคงขึ้นไปอยู่อันดับที่ 1 แล้ว การคิดถึงใครในแง่ที่เป็นคู่นอนนั้น ไม่เหมือนกับการคิดถึงใครในแง่ที่เป็นพื่อนหรือคู่ชีวิตหรอกค่ะ ผู้ชาย ก่อนที่เขาจะแต่งงาน เขาก็จะไม่ได้มองหาความตื่นเต้นที่จะมีเซ็กส์หรอก แต่เค้ากลับมองและอยากจะแน่ใจว่า ในอีก 70 ปีข้างหน้า เขาจะยังอยู่เคียงข้างกับเธอคนนั้นต่างหาก

ผู้ชายแบบไหนไม่น่าเลือกมาเป็นคู่

6ce41995b9970d6722a7234cb622b68f_1290427972                                                                           สาวๆ ทุกคน ต่างก็ใผ่ฝันอยากจะได้หนุ่มหล่อ รวย เท่ ดี มีเสน่ห์ แต่...

 

หัวใจสีแดงสาวๆ ทุกคน ต่างก็ใผ่ฝันอยากจะได้หนุ่มหล่อ รวย เท่ มีเสน่ห์ คารมดี มาครองคู่กันทั้งนั้นแหละ แต่คิดดูเถอะ จะมีหนุ่มสักกี่คน ที่มีคุณสมบัติพรั่งพร้อม แถมไม่มีนิสัยเสียอื่นๆ ติดตัวมาด้วยเลย ถึงจะมีหนุ่มเพอร์เฟ็คแบบที่ว่าจริง ก็คงจะมีสาวๆ มาแย่งกันรุมทึ้งแทบเสื้อขาด กว่าจะตกมาถึงไม้ถึงมือเรา ก็มักจะมีตำหนิติดมาด้วย ..แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องรีบร้อนหาคู่หาแฟนให้ปวดหัวนะคะ วัยใสวัยเรียนอย่างเรา ควรตั้งใจเรียนเป็นอย่างแรก เรื่องหัวใจ เจอะเมื่อไหร่ก็คงแล้วแต่พรหมลิขิต :)
เจ้าชู้ : บางคนชอบแก้ตัวว่า ก็คนเจ้าชู้น่ะ มีเสน่ห์ แหม ตอนแรก ๆ ก็ยังพอทนได้หรอก แต่นานๆ ไปนะสิจะเป็นปัญหา ซึ่งก็คงไม่ต้องจาระไนกันหรอก เพราะมีให้เห็นเป็บแบบอย่างอยู่แล้ว ในละครน้ำเน่าทั้งหลาย


หัวใจสีแดงติดบุหรี่ : นี่ไม่ใช้แค่ปากเหม็นอย่างเดียวนะคะ ทั้งรถ ทั้งบ้าน จะมีแต่กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมด สุขภาพของตัวเขาเองก็จะไม่มี มีปัญหาตามมาในอนาคต ทั้งมะเร็ง ทั้งถุงลมโป่งพอง และที่สำคัญคือ หากคุณมีลูก ลูกก็อาจจะไปเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อได้เมื่อเขาโตขึ้นมา

หัวใจสีแดงติดเพื่อน : ผู้ชายบางคนเขาติดเพื่อนอย่างเอาจริงเอาจังเลยนะคะ ไม่ได้แกล้งติดเล่น ๆ โดยเขาอาจจะเป็นลูกคนเดียว ขี้เหงา ก็เลยติดเพื่อน แล้วก็ติดมาจนกุหลาบแดงชินจนเป็นนิสัยติดตัวไปเลย ไปไหนคนเดียวไม่ได้ หรือไปเฉพาะครอบครัวก็ไม่ได้ ไม่สนุก ต้องพกเพื่อนไปด้วยตลอด คนแบบนี้ เขาจะอึดอัดมากทีเดียว ถ้าต้องอยู่กับคุณตลอดเวลา เหมือนถูกจับขัง บางคนดีหน่อย จะไปเจอเพื่อน ก็เอาแฟนไปด้วย แต่บ่งคนไม่ยอมเลย เพราะกลัวจะไม่สนุก ถ้าคุณเป็นนักวาดฝัน อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กับพ่อ แม่ ลูก ก็ควรจะอยู่ให้ห่างจากผู้ชายติดเพื่อนเหล่านี้ซะนะคะ

กุหลาบแดงติดเหล้า : เมื่อเมาจะขาดสติค่ะ อาจจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่น หรืออาจจะขับรถลงคลอง บางครั้งถึงขั้นทำร้ายลูก เมีย แต่ถ้าเมาอยู่บ้าน ลูกก็อาจจะเจริญรอยตามแบบนั้นไปด้วยก็ได้

กุหลาบแดงชอบเล่นการพนัน : ครอบครัวพังแน่นอนค่ะแบบนี้ เตรียมตัวชดใช้หนีแทนได้เลย

กุหลาบแดงเซ็กซ์จัด : ถ้าคุณเป็นเหมือนกันก็ดี แต่ถ้าไม่ คุณอาจจะต้องเจอกับสภาพแบบนี้ อะไรกันนักกันหนา ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งทุกวัน ไม่มีอารมณ์ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เดี๋ยวออกไปกับคนอื่นนอกบ้าน จะหาภรรยาให้อีกคนก็กลัวชาวบ้านเขาจะนินทา จะให้ไปเที่ยวก็กลัวเอดส์ งานก็หนักอยู่แล้วแถมกลางคืนยังไม่ได้พักอีก

กุหลาบแดงซาดิสม์ : ชอบทำร้ายร่างกาย : แค่คิดก็สยองแล้วหละ


กุหลาบแดงเป็นเกย์ : คุณจะอับอายขายหน้าประชาชีน่ะสิ คิดดูเอาเถอะว่าผู้หญิงอย่างคุณสู้ผู้ชายไม่ได้ตรงไหนนะ

กุหลาบแดงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ : นี่ก็จะตรงข้ามกับเซ็กซ์จัดอย่างสิ้นเชิงเลยนะ

กุหลาบแดงบ้างาน : คนแบบนี้จะมุ่งทำงานหาเงินอย่างเดียว ส่วนคุณก็มีหน้าที่ใช้เงิน แต่ถ้าคุณคาดหมายครอบครัวอบอุ่น ไปเที่ยวด้วยกัน อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา คงจะแย่หน่อย

กุหลาบแดงขี้เกียจ : ตอนที่ยังไม่มีลูก ก็คงจะไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่พอมีลูกแล้ว แค่เลี้ยงลูกอย่างเดียวคุณก็แทบแย่ แถมยังต้องดูแลสามีที่ไม่ทำอะไรซะอีก วัน ๆ เอาแต่นอนดูทีวี เฮ้อ คิดแล้วเหนือยแทนจริง ๆ

กุหลาบแดงเห็นแก่ตัว : ข้อนี้ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสมาก เพราะเขาคงจะไม่นึกถึงความรู้สึกของคุณเลย นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ เจอสาวถูกใจก็เข้าไปหลี อยากสูบบุหรี่ก็สูบ เพื่อนโทรมาตามก็ไป เมาหัวราน้ำทุกวัน อยากเข้าบ่อนก็เข้า ไม่พอใจก็ลงไม้ลงมือ ไม่มีเวลาให้ครอบครัว นอนดูคุณทำงานบ้านหน้าตาเฉยก็นี่ แหละหนา ปัญหาที่ว่า . . . จะตามมาเป็นกระบุงกอง ดังนั้น ดูใจใครอยู่ก็ขอให้สังเกตให้ดีถึงธาตุแท้ภายในของเขาด้วยก็แล้วกันนะคะ แต่หากเรื่องไหนที่พอจะทนได้และพูดคุยปรับเข้าหากันได้ ปัญหาทั้งหมดที่เสนอไปก็แค่เล็กน้อยค่ะ ข้อควรระวัง เกียดสิ่งใดมักจะได้สิ่งนั้นเสมอนะค่ะ




กำเนิดโยคะ [ Origins of YOGA ]


โยคะ เกิดขึ้นที่อินเดียเมื่อประมาณ 4 - 5 พันปีที่ผ่านมา เดิมจะเป็นการฝึกเฉพาะโยคีและชนชั้นวรรณะพราหมณ์
เพื่อเอาชนะความเจ็บป่วย ต่อมาโยคะได้พัฒนาผ่านลัทธิฮินดู มายุคพุทธศาสนา ถึงยุคลัทธิเซนในประเทศจีน
โดยแท้จริงแล้ว โยคะไม่ได้เป็นศาสตร์ของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง แต่เป็นศาสตร์สากลที่ศาสนาต่าง ๆ สามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่ง
ในการปฏิบัติเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้น ๆ โยคะจึงเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะ หะฐะโยคะ( Hatha Yoga )
ซึ่งจัดว่าเป็น Modern Yoga ที่พัฒนามาจากการรวมแบบโยคะดั้งเดิม กับวิธีปฏิบัติของพระพุทธศาสนา



ความหมายของโยคะ [ Meaning Of YOGA ]

โยคะ หมายถึง การสร้างความสมดุลของร่างกาย-จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยรวมให้เป็นหนึ่งเดียว
หะฐะโยคะ (HATHA YOGA) เป็น 1 ในสาขาโยคะทั้งหมด หะฐะโยคะ จะใช้ศิลปการบริหารร่างกาย ภายใต้การควบคุมของจิตใจ
เกิดความสมดุลของพลังด้านบวกและด้านลบ โยคะจึงช่วยบรรเทาและบำบัดโรคได้
หะฐะโยคะ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนเห็นความสำคัญของ สุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี



โยคะท่าพื้นฐาน

ท่านมัสการ




ความหมาย


• นมัสการ หมายถึง ทำความเคารพ



วิธีปฏิบัติ


• ยืนหันหน้าไปทางพระอาทิตย์ เท้าชิด พนมมือ

• หายใจเช้าและยกแขนขึ้น ค่อยๆ เอนตัวไปข้างหลัง ยื่นแขนเหนือศีรษะ

• หายใจออกช้าๆ เอนตัวไปข้างหน้า ให้มือที่พนมอยู่สัมผัสพื้นจนกระ ทั่งมืออยู่ในแนวเดียวกับเท้าศีรษะสัมผัสหัวเข่า

• หายใจเข้า ก้าวเท้าขวาถอยหลังมา 1 ก้าว ให้มือและเท้า ยังคงอยู่กับพื้น เท้าซ้ายอยู่ระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• ขณะหายใจออก ยกเท้าซ้ายเข้ามาชิดเท้าขวา แขนตรงยกสะโพกขึ้นให้ศีรษะ และแขนอยู่ในแนวเดียวกัน ทำท่าเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าและค่อยๆ ลดสะโพกลงมาที่พื้น (ให้สะโพกอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย) ก้มตัวลงไปข้างหลังให้มากที่สุด

• หายใจออก และลดตัวลงมาที่เท้า เข่า มือ และอก สัมผัสพื้น

• หายใจเข้า และค่อยๆยกศีรษะขึ้น เงยศีรษะไปข้างหลังให้ได้มากที่สุด และโค้งกระดูกสันหลังไปให้ได้มากที่สุด เหมือนท่านาคอาสนะ

• ขณะหายใจออกช้าๆ และให้แขนอาสนะ ยกสะโพกขึ้น และให้ศีรษะอยู่ในแนวเดียวกับแขน ทำเป็นรูปโค้งขึ้น

• หายใจเข้าช้าๆ และงอเข่าซ้าย ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว มือยังคงอยู่ที่พื้น วางเท้าซ้ายลงบนพื้นระหว่างมือทั้งสองข้าง ยกศีรษะขึ้น

• หายใจออกช้าๆ ให้มืออยู่ที่เดิม ดึงเท้าทั้งสองเข้ามาชิดกัน ให้อยู่แนวเดียวกับมือถ้าเป็นไปได้ ให้ศีรษะสัมพันธ์กับหัวเข่า

• หายใจเข้าช้าๆ และยกแขนขึ้น ค่อยๆเอนตัวไปข้างหลัง โดยยื่นแขนขึ้นเหนือศีรษะ ย้อนกลับไปตำแหน่งยังข้อ 1



ท่าชวังคอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต ชว หมายถึง ทั้งหมด หรือ ทุกๆ อังคะ หมายถึง ร่างกาย ชวังคะ จึงหมายถึง ทำทั้งร่างกาย

ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นท่าที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายทุกส่วน ท่านี้มักเรียกกันว่า ท่ายืนบนไหล่

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงายในท่า ศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำลงบนพื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้นขณะงอเข่าและดึงเข่าเข้ามาที่ท้อง หายใจออก

• หายใจเข้าช้าๆ กดฝ่ามือลง ยกลำตัวตั้งแต่ส่วนเอวขึ้นจากพื้น งอกระดูกสันหลังไปข้างหลัง และทำท่อนแขนให้ตรง ให้สะโพกอยู่บนพื้น

• หายใจเข้าแล้วในขณะหายใจออก ให้ยกขาตั้งฉากกับพื้น อาจใช้มือพยุงสะโพกไว้ หรือวางแขนไว้ลงกับพื้นตามถนัด

• ขาดชิด เข่าตรง นิ้วเท้าชี้ขึ้น ศีรษะตรงไม่หันไปด้านใดด้านหนึ่ง เก็บคางให้ชนหน้าอก

• หายใจเข้า ออก ช้าๆ ขณะคงท่านี้ไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 6 จนกลับสู่ท่าศพอาสนะ



ท่าตรีโกณอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตหมายถึง สาม โกณ หมายถึง เหลี่ยมหรือมุม

ดังนั้น ท่านี้จึงเรียกว่า ท่าสามมุม หรือท่าสามเหลี่ยม

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิดแขนแนบลำตัว

• แยกเท้าออกจากกัน ให้ระยะห่างมากกว่าหนึ่งช่วงไหล่เล็กน้อย

• หายใจเข้าและยื่นแขนทั้งสองข้างออกให้ขนานกับพื้น ฝ่ามือคว่ำลง

• หายใจออกช้าๆ หันลำตัวไปทางซ้าย งอตัวที่ช่วงเอว ให้มือขวาลงไปที่แข้งซ้าย ฝ่ามือขวา วางไว้ข้างนอกของหน้าแข้งซ้าย

แขนซ้ายควรยื่นออกไปด้านบนขาและแขนทั้งสองข้างตรง โดยไม่ต้องงอเข่าและข้อศอก


• หันศีรษะขึ้นไปทางซ้าย มองไปที่ปลายนิ้วมือซ้าย หายใจเข้า และกลับไปสู่ท่าเดิม คือท่ายืน ให้แขนกางออก

• คงท่านี้ไว้ เท่ากับช่วงหายใจออก หายใจออกและทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 4-7 สลับซ้าย



ศีรษะอาสนะ



ความหมาย

• คำว่า ศีรษะ หมายถึง หัว ในภาษาสันสกฤต ท่านี้คือ ท่ายืนด้วยศีรษะ ซึ่งได้รับความนิยมมากในการฝึกอาสนะ ไม่แพ้ท่าปทมอาสนะ

ด้านบนคือภาพโมกุลในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นภาพโยคีขณะทำท่าศีรษะอาสนะ

วิธีปฏิบัติ


• นั่งคุกเข่า ให้สะโพกอยู่บนส้นเท้า

• เอนตัวไปข้างหน้า วางแขนลงบนพื้น ให้ศอกห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ประสานนิ้วมือเข้าไว้ด้วยกัน

• วางศีรษะลงบนพื้น ให้ท้ายทอยสัมผัสมือที่ประสานไว้

• ให้ปลายเท้าจิกพื้น ขณะยกส้นเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น

• คงท่านี้ไว้เป็นระยะเท่ากับการหายใจเข้า ถ้าไม่สามารถกลั้นหายใจได้ ให้ค่อยๆ หายใจออก และนอนราบกับพื้น กางขาออก กลับไปสู่ท่าศพอาสนะ



หลอาสนะ



ความหมาย

• หล แปลว่า คันไถ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย แบบท่าศพอาสนะ

• หายใจเข้า วางฝ่ามือคว่ำที่พื้น ให้สะโพกอยู่บนพื้น งอเข่าเข้ามาจรดท้องขณะหายใจออก

• หายใจเข้า ขณะหายใจออกให้ยกขาขึ้นตั้งฉากกับพื้น คุณอาจใช้มือพยุงสะโพก หรือวางแขนราบไปกับพื้นแล้วแต่ถนัด

• หายใจออก แล้วยกขาขึ้นเหนือศีรษะ งอขาตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ยกหลังและสะโพก จนนิ้วเท้าสัมผัสพื้นด้านหลังของศีรษะ รักษาเท้าให้ชิดกัน

หากใช้มือพยุงหลังให้ลองวางแขนราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง ถ้าไม่สามารถวางแขนลงที่พื้นได้ให้ใช้มือพยุงหลังส่วนล่างไว้


• เข่าตรง หายใจช้าๆ และคงท่านี้ไว้สักครู่ ถ้านิ้วเท้าสัมผัสพื้นไม่ได้ ก็พยายามให้นิ้วเท้าอยู่ต่ำที่สุด

• ทำท่าย้อนกลับตั้งแต่ข้อ 5 ถึง 1 จนกลับไปสู่ท่าศพอาสนะเหมือนเดิม




ธนูอาสนะ




ความหมาย

• คำว่าธนู ในภาษสันสกฤต หมายถึง มีรูปร่างเหมือนคันศร โค้ง หรือ งอ คันศร

ในที่นี้หมายถึง คันศรที่ใช้กับลูกธนู ท่าอาสนะนี้ มีชื่อแบบนี้เนื่องจาก ร่างกายมีท่าทางคล้ายคันศรที่โก่งพร้อมยิงธนู

วิธีปฏิบัติ


• นอนคว่ำหน้าไปข้างใดข้างหนึ่ง แขนราบไปกับลำตัว หงายฝ่ามือขึ้น

• หันหน้ามาเพื่อวางคางไว้บนพื้น หายใจออก งอเข่า เอื้อมแขนไปข้างหลัง จับข้อเท้าขวาไว้ด้วยมือขวา จับข้อเท้าซ้ายด้วยมือซ้าย

• ขณะหายใจเข้า ค่อยๆ ยกขาขึ้นโดยดึงข้อเท้าขึ้น ยกเข่าขึ้นจากพื้น และยกอกขึ้นจากพื้นในเวลาเดียวกัน

กลั้นลมหายใจเข้าเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนหน้าท้อง


• ยื่นศีรษะให้ไกลที่สุด คงท่านี้ไว้ขณะกลั้นหายใจ

• หายใจออกช้าๆ วางเข่าลงบนพื้น ปล่อยข้อเท้า ค่อยๆ วางขาและแขนลงบนพื้น หันหน้าไปข้างหนึ่ง ทำเหมือนท่าเริ่มต้น



ท่าพิจิกอาสนะ



ความหมาย

• ท่าพิจิกหรือท่าแมงป่อง ในท่านี้ ร่างกายจะดูเหมือนแมลงป่อง ที่ยกหางโค้งขึ้นเหนือหัว พร้อมจะต่อยคู่ต่อสู้

แม้ท่านี้จะดูยากสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก

วิธีปฏิบัติ


• คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้า วางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่

• ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด

• ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง

• หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้ ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ

• ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้

• ทำย้อนกลับจากข้อ 5 จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า

* ข้อควรระวัง ไม่ควรลองท่าแมงป่อง จนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกายอื่นๆ และไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน



ท่าพฤกษอาสนะ




ความหมาย

• ในภาษาสันสกฤต พฤกษะหมายถึง ต้นไม้ ท่านี้จึงเรียกว่าท่าต้นไม้

"ยืนตรงบนขาซ้าย งอขาขวาและวางขาขวาไว้บนโคนขาซ้าย ยืนเหมือนต้นไม้ ยืนอยู่บนพื้นดิน นี่คือท่าพฤกษอาสนะ"

วิธีปฏิบัติ


• ยืนเท้าชิด แขนแนบลำตัว

• งอเข่าขวา ยกต้นขาขวา และยก ส้นเท้าขวาไปบนต้นขาซ้ายด้าน ในให้โกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้

• ทรงตัว บนเท้าซ้าย ยกแขนทั้งสอง ข้างขึ้นเหนือศีรษะ อย่าให้ข้อศอกงอ และให้ฝ่ามือประชิดกัน

คงท่านี้ไว้ขณะค่อยๆ หายใจ ประมาณ 10 ช่วงหายใจเข้าออก


• ลดแขนและขาขวาลง และกลับไปสู่ตำแหน่งในข้อ 1 คือการยืนหน้าชิด แขนแนบลำตัว หยุดพักสักครู่ และทำซ้ำด้วยขาข้างหนึ่ง



ศพอาสนะ



ความหมาย

• ความหมาย คำว่า ศพ ในภาษาสันสกฤต หมายถึง ร่างที่ตายไปแล้ว

"การนอนลงที่พื้นเหมือนศพ เรียกว่า ศพอาสนะ ช่วยกำจัดความเหนื่อยล้าและให้จิตใจได้พักผ่อน" จากหัตถโยคะปฏิบัติ

วิธีปฏิบัติ


• นอนหงาย อย่าให้ขาแตะกัน แขนราบไปกับลำตัว ฝ่ามือหงายขึ้น

• หลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ

• งอข้อศอก วางฝ่ามือบนพื้นใต้ไหล่ ให้นิ้วชี้ไปด้านหลัง

• มุ่งความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกาย จากหัวถึงเท้า แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายทีละส่วน

• คงท่านี้ไว้ 10-15 นาที หากรู้สึกง่วงนอนขณะทำท่านี้ ให้หายใจเร็วและลึกขึ้น

• ครั้งแรกที่ฝึก ให้คงท่าศพอาสนะไว้ 10 หรือ 15 นาที กลับมาทำซ้ำเป็นระยะๆ ในช่วงฝึกท่าต่างๆ เพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นร่างกาย / จิตใจ

คำแนะนำ

บางคนคิดว่าท่านี้ง่ายมาก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น จุดประสงค์ของศพอาสนะ คือ ให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย

นอกจากร่างกายจะต้องนิ่งและผ่อนคลายแล้ว จิตใจยังต้องนิ่งราวกับผิวน้ำที่ปราศจากการรบกวนอีกด้วย

ผลที่ได้คือการผ่อนคลายอย่างล้ำลึกและนิ่ง อันจะส่งผลให้เกิดสมาธิต่อไป

การฝึกศพอาสนะนั้นต้องใช้เวลา การกำหนดความสนใจไปที่อวัยวะแต่ละส่วนและ กำหนดลมหายใจล้วนแต่มีประโยชน์ต่อการฝึกท่านี้อย่างยิ่ง

อุปสรรค 2 อย่างที่อาจลดคุณค่าการฝึกศพอาสนะ ก็คือ ความง่วงและจิตใจที่ฟุ้งซ่าน หากรู้สึกง่วงขณะฝึก ให้กำหนดลมหายใจให้ลึกขึ้น

หากจิตใจไม่นิ่ง ให้มุ่งความสนใจไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กำหนดจิตไปที่พื้นหรือที่จังหวะลมหายใจของคุณเอง

การฝึกศพอาสนะควรทำก่อนและหลังการฝึกอาสนะเป็นประจำ


ข้อมูลจาก
Practice 01





------------------------------------------------------------------------------

 
Design by Wordpress Templates | Bloggerized by Free Blogger Templates | Web Hosting Comparisons